บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SIRI รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/66 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า แสนสิริมีรายรับรวมทั้งสิ้น 9,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 จาก 8,855 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2565 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ รายได้ค่าบริการธุรกิจ และรายได้จากกิจการโรงแรมที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ
ขณะเดียวกัน แสนสิริ และบริษัทย่อยบันทึกกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) เท่ากับ 1,557 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 22.8 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1,268 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2565 โดยในไตรมาสนี้ มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 16.3 ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 14.3 ของรายได้รวมในไตรมาส 3/2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าและบริษัทร่วม การควบคุมและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับไตรมาส 3/66 อยู่ที่ร้อยละ 20.2 ของกำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล
ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และมิกซ์ โปรดักส์ รวมอยู่ที่ 5,341 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 ของรายได้จากการขายโครงการทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขาย โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 3,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จากจำนวน 3,257 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตสูงสุดในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ รายได้หลักมาจากโครงการนาราสิริ พหล-วัชรพล โครงการเศรษฐสิริ ดอนเมือง โครงการบูก้าน กรุงเทพกรีฑา และโครงการบูก้าน พัฒนาการ ทั้งนี้ รายได้จากทั้ง 4 โครงการดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 20 ของ รายได้จากการขายโครงการทั้งหมด
พร้อมกันนี้ รายได้รวมสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2566 จำนวน 28,047 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 28.0 จาก 21,913 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปี 2565 โดยในจำนวนนี้มีการบันทึกกำไรจากการขายทรัพย์สินและการขายที่ดิน รวมจำนวน 1,134 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นร้อยละ 91.3 เป็น 4,760 ล้านบาท จาก 2,488 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนของปี 2565 ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.4 ในปีก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 17.0