มุมมองโกลเบล็ก!!

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 163 บาท ลบ 0.50 บาท, ADVANC ปิด 221 บาท ลบ 1 บาท, KBANK ปิด 131.50 บาท ลบ 0.50 บาท, SCB ปิด 98.50 บาท ลบ 1.50 บาท, TIDLOR ปิด 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือน พ.ย.66 ปรับตัวขึ้นต่อ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ที่ปรับลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติชะลอไหลออก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

อีกทั้ง FED มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุม 2 ครั้งล่าสุด ขณะที่ผลสำรวจความเห็นนักลงทุน

ส่วนใหญ่คาดว่า FED จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมครั้งสุดท้ายเดือน ธ.ค. เมื่อพิจารณาประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาค เกษตรของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง ในเดือน ต.ค. ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง

และแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/66 ลดลงจาก 2.3% ที่เปิดเผยครั้งก่อน โดยแผ่วลงจากขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ หนุนมุมมองคาดการณ์ FED ยุติการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

ขณะเดียวกัน บอร์ดอีวีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรืออีวี 3.5 เป็นเวลา 4 ปี คือปี 67-70 โดยรัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถและขนาดของแบตเตอรี่ ระหว่าง 50,000-100,000 บาทต่อคัน และ ครม.เห็นชอบให้ยกเว้นการยื่นวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดียและไต้หวันเป็นกรณีพิเศษ เพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน

ด้าน ธปท.ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.66 ยังฟื้นตัว โดยมีแรงส่งสำคัญจากการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ด้านการส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว จึงคาดการณ์กรอบดัชนีเดือน พ.ย. ที่ 1,400-1,480 จุด

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่จะมีผลกับตลาดหุ้นไทย อาทิ วันที่ 7 พ.ย. ครม. ลดราคาน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ลง 2.5 บาท/ลิตร วันที่ 20 พ.ย. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/66 วันที่ 29 พ.ย. ประชุม กนง.ครั้งสุดท้ายของปี วันที่ 30 พ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ดังนั้น แนะกลยุทธ์การลงทุนใน 3 หุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลงซึ่งสะท้อนคาดการณ์ของตลาดว่า FED มีแนวโน้มยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนการเงินของหุ้นกลุ่มการเงินไม่ปรับขึ้นต่อ โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ได้แก่ TIDLOR, SAWAD และ MTC!!

อินเด็กซ์ 51

คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม