สมฤทัย ตัณฑกิตติ หัวหน้าแผนกงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ADVANC ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม “เอไอเอส” เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/66 จะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น และการแข่งขันที่ทรงตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/66 พร้อมเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ และมูลค่าเพิ่มจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง และส่งมอบสิทธิประโยชน์บนเครือข่ายและการให้บริการของเอไอเอส ซึ่งจะทำให้รายได้ต่อหัว (APRU) ปรับตัวดีขึ้นจากกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเดิม
ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยว ทำให้รายได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปิดใช้บริการซิมใหม่ และการให้บริการแก่คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ
ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ยังมีโมเมนตัมการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทได้เน้นการขายนำเสนอแพ็กเกจที่เพิ่มมูลค่าผ่านการรวมการขายพ่วงคอนเทนต์ ซึ่งจะทำให้ได้กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ยาวนานขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจหลัก โดยโฟกัสฐานลูกค้าคุณภาพและนำเสนอการให้บริการมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างกำไรและผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน จากเดิมที่เน้นการแข่งขันเพียงการเติบโตของยอดผู้ใช้บริการใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าค่าใช้จ่ายทางการตลาดจะกลับมาสูงกว่าไตรมาสที่ 3/66 สอดคล้องกับการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ จากไตรมาสก่อนบริษัทมีการรัดเข็มขัดมากขึ้นในการทำการตลาด พร้อมเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการทำการตลาดบนดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง Low Season
สมฤทัย กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าดีลเข้าซื้อ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB นั้น คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะสามารถพิจารณาได้ภายในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ในวาระการประชุม
อย่างไรก็ดี เมื่อ กสทช. พิจารณาอนุมัติการควบรวมกิจการแล้ว จะเป็นขั้นตอนการทำธุรกรรมอีกราว 2 สัปดาห์ โดยคาดว่าสามารถรับรู้ผลประกอบการเข้ามาในงบการเงินของเอไอเอสได้หลังจากนั้น