สงครามเดือด-ดอกเบี้ยพุ่ง กดหุ้นไทยร่วงหนักต่ำสุดรอบ 3 ปี 1,400 จุด อาจยืนไม่ไหว!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สงครามเดือด-ดอกเบี้ยพุ่ง กดหุ้นไทยร่วงหนักต่ำสุดรอบ 3 ปี 1,400 จุด อาจยืนไม่ไหว!

Date Time: 20 ต.ค. 2566 15:53 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ลดลง 20.98 จุด เปลี่ยนแปลง -1.47% ดัชนีอยู่ที่ 1,402.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,645,56 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยังกดดัน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดแนวรับ 1,390 จุด น่าเข้าซื้อ พร้อมชี้หาก 3 ประเด็นเคลียร์ชัด หุ้นพร้อมขึ้นทันที

ความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ วันที่ 20 ต.ค. 66 พบว่า ณ เวลา 15.21 น. ดัชนีลดลง 20.98 จุด เปลี่ยนแปลง -1.47% ดัชนีอยู่ที่ 1,402.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,645,56 ล้านบาท ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ท่ามกลางความกังวลความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ประกอบกับทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้


สรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,400 จุด โดยหุ้นขนาดใหญ่ถูกเทขายอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นใน SET50 พบแรงขายในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเฉลี่ย 3-4%


ทั้งนี้ มองว่าสาเหตุที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง มาจากแรงกดดันของสงครามในตะวันออกกลาง ที่กินระยะเวลายาวนานเกือบ 2 สัปดาห์ และไม่มีสัญญาณว่าจะคลี่คลาย ซึ่งมีความกังวลว่าหากสงครามลากยาวไปต่อเนื่อง จะทำให้เงินเฟ้อในกลุ่มอาหารและกลุ่มพลังงานกลับตัวสูงขึ้น และมีโอกาสที่ธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงขึ้นอีกระยะหนึ่ง


ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 5% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 ส่งผลให้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีความต่างอัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตรเข้าใกล้ 0% จากเดิมอยู่ที่ 3-4% ทำให้กระแสเงินลงทุนไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่พันธบัตรมากขึ้น


อย่างไรดี ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยมีโอกาสที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อไปที่ 5.5%


นอกจากนี้ ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนตุลาคม มีโอกาสหลุด 1,400 จุด โดยให้กรอบแนวรับสัปดาห์หน้าไว้ที่ระดับ 1,390 จุด ถือเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรอโอกาสการฟื้นตัวกลับ โดยยังต้องติดตาม 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ 2. ภาวะสงคราม และ 3. นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเชื่อว่าหากมีความชัดเจนหุ้นไทยพร้อมปรับตัวขึ้นทันที


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ