ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MORE ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 6 เดือน ปี 2566 เกี่ยวกับรายการเงินให้กู้ยืม ระยะสั้นแก่บริษัทร่วม การรับคืนเงินมัดจำค่าสิทธิค้างรับจากบริษัทร่วมดังกล่าว เงินลงทุนจ่ายล่วงหน้า เงินมัดจำค่าซื้อหุ้น และเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ รวม 357 ล้านบาท (คิดเป็น 20% ของส่วนของผู้ถือหุ้น) ทั้งนี้ ให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ MORE และติดตามคำชี้แจงของบริษัท ดังนี้
1.ขอให้บริษัทชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม และการประเมินความสามารถในการชำระหนี้และความคืบหน้าในการเรียกเก็บเงินมัดจำค่าสิทธิ หลังบริษัทมีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทร่วม 149 ล้านบาท ในระหว่างงวด 6 เดือน ปี 2566 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบริษัทร่วมเพียงแห่งเดียวที่ยังคงประกอบธุรกิจ คือ MORE MONEY (บริษัทร่วม 25% ทำธุรกิจจัดการแสดงคอนเสิร์ต) ทั้งนี้ MORE MONEY มีทุนชำระแล้ว 2.5 ล้านบาท และจากข้อมูลในงบการเงินไม่ปรากฏส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม
2.ขอให้บริษัทชี้แจงแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุน หลักเกณฑ์ และข้อมูลประกอบการพิจารณาจ่ายเงินลงทุนล่วงหน้าทั้งจำนวน หลักเกณฑ์การวางมัดจำค่าซื้อหุ้น เหตุผล ความเหมาะสม และความสอดคล้องของการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ กับวัตถุประสงค์การทำธุรกิจของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามอำนาจอนุมัติที่เกี่ยวข้อง หลังระบุข้อมูลในงบการเงิน เกี่ยวกับเงินลงทุนจ่ายล่วงหน้า เงินมัดจำ ค่าซื้อหุ้น และการลงทุนในตราสารทุน รวม 158 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้เงินลงทุนจ่ายล่วงหน้าในโครงการ “Grand Ratchada” มูลค่า 100 ล้านบาท การลงทุนตราสารทุน-หลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่า 38 ล้านบาท และเงินวางมัดจำค่าซื้อหุ้นมูลค่า 20 ล้านบาท
รวมทั้งขอให้อธิบายข้อมูลที่คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบใช้ในการประกอบการพิจารณา พร้อมเหตุผลของคณะกรรมการในการอนุมัติทำรายการตามข้อ 1-2 ว่าได้พิจารณาอย่างระมัดระวัง เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน สภาพคล่อง และฐานะการเงินของบริษัทอย่างไร.