หุ้นท่องเที่ยวร่วง!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ต.ค.66 ปิดที่ 1,451.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 51,227.05 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 34.15 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 68.50 บาท ลบ 1.50 บาท, DELTA ปิด 83.75 บาท ลบ 1.75 บาท, PTT ปิด 32.25 บาท ลบ 0.25 บาท, CPALL ปิด 60.75 บาท บวก 0.75 บาท, BDMS ปิด 27.50 บาท บวก 0.75 บาท

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวร่วงแรงหลังเกิดเหตุยิงที่พารากอน ที่กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน แต่มีแรงซื้อหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในกลุ่ม แบงก์ ค้าปลีก โรงพยาบาล

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ชี้เหตุยิงที่พารากอนจะกระทบภาคท่องเที่ยวหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวระยะสั้น เช่น AOT, AAV, BA, ERW, CENTEL, MINT, AWC, SHR เป็นต้น

ขณะที่ บล.ยูโอบี ประเมินกระทบจิตวิทยาในกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก ที่ทำให้ชาวจีนกังวลความปลอดภัยในการเดินทางมาเที่ยวไทย และทำให้การเร่งตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงวันหยุด Golden week อาจชะลอตัว และต้องใช้เวลาฟื้นตัว (ในอดีต ปี 58 เหตุระเบิดราชประสงค์ใช้ 4 เดือน ,ปี 61 อุบัติเหตุเรือชนกันที่ภูเก็ตใช้เวลาฟื้น 5 เดือน) ยูโอบีมองระวังความเสี่ยงช่วงสั้นจากความกังวลนี้ แต่ระยะกลาง-ยาวยังประเมินหุ้นท่องเที่ยวดีอยู่

บล.พาย ประเมินระยะสั้นกระทบต่อกลุ่มท่องเที่ยวในเชิงจิตวิทยา หากอิงเหตุไม่สงบแยกราชประสงค์ปี 58 พบว่า SET INDEX ปรับลง 2.7% และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อย่าง AOT ปรับลง 8.7% ERW ปรับลง 13% และ CENTEL ปรับลง 13% แต่จากนั้น สามารถฟื้นขึ้นมาได้ แต่ครั้งนี้เชื่อว่าผลกระทบจะไม่เท่าช่วงเหตุราชประสงค์

บล.กรุงศรี ระบุ หากอิงจากเหตุระเบิดราชประสงค์ พบหลังเกิดเหตุ 1 วัน SET ลดลง 2.6%, หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวลดลงเฉลี่ย 9% โดยมี CENTEL ลงมากสุด 12.6% แต่ SET และหุ้นท่องเที่ยวใช้เวลาราว 2 เดือนกลับสู่ระดับราคาเดิม โดยมี MINT ฟื้นตัวเร็วสุดภายใน 1 สัปดาห์ (มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศยจึงได้รับ ผลกระทบจำกัดสุด) หากราคาหุ้นร่วงแรง มองเป็นโอกาส “ซื้อ”.

อินเด็กซ์ 51

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่