กรุงเทพประกันภัย ปรับโครงสร้าง เป็น “โฮลดิ้งส์” คาดเสร็จกลางปีหน้า เล็งสร้างแพลตฟอร์มประกันภัย

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริบทของธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน ด้วยการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนปรับโครงสร้าง ผ่านการจัดตั้ง บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) ในธุรกิจอื่นๆ ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลัก และที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย โดยบริษัทโฮลดิ้งส์จะมีบทบาทด้านการกำหนดนโยบาย กำกับดูแล และบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โดยรวม ตลอดจนบริหารจัดการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน

สำหรับโอกาสทางธุรกิจและประโยชน์ของการปรับโครงสร้างบริษัทนั้น มองว่าจะเป็นการสร้างประโยชน์แก่นักลงทุนอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว โดยการดำเนินธุรกิจในอนาคต ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัทวางแผนจะดำเนินธุรกิจผ่าน 2 กลุ่มประกอบด้วย

1.กลุ่มธุรกิจหลัก ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย โดยจะมีขนาดสินทรัพย์รวมกันไม่น้อยกว่า 75% ของสินทรัพย์รวม ประกอบด้วย 3 สายงานธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย

2.กลุ่มธุรกิจอื่น ดำเนินธุรกิจนอกเหนือจากประกันภัย โดยจะมีขนาดสินทรัพย์รวมกันไม่เกิน 25% ของสินทรัพย์รวม ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งส์จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มจะส่งเสริมธุรกิจประกันภัย หรือธุรกิจที่จะสร้างผลประโยชน์ให้แก่นักลงทุนและผู้บริโภค

พร้อมกันนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่มีศักยภาพ เช่น การเข้าไปลงทุนด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยี และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการผู้บริโภคมากขึ้นด้วยรูปแบบ “Zero-Touch Customer Experience” คาดว่าความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุน จะสามารถเป็นได้ทั้งการตั้งบริษัทร่วมทุน หรือการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ

ส่วนความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างนั้น บริษัทจะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 6 ตุลาคม 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการปรับโครงสร้าง และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้น BKIH ซึ่งปัจจุบันได้จัดตั้งบริษัทแล้ว จะดำเนินการยื่นไฟลิ่ง (แบบ 69/247-1) ต่อสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อพิจารณาต่อไป

โดยคาดว่าภายหลังจากสำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติ จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BKI โดย BKIH จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BKIH เพื่อแลกกับหุ้นสามัญของ BKI ในอัตราเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ BKI ต่อ 1 หุ้นสามัญของ BKIH ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567

ทั้งนี้ ภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เสร็จสิ้นแล้ว BKI จะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ BKIH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้นของบริษัทในวันเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นของ BKI ที่เข้าร่วมการแลกเปลี่ยน หุ้น หรือตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จาก BKIH จะไม่ได้รับผลกระทบทางภาษีใดๆ อันเป็นผลจากธุรกรรม การแลกหุ้น