หุ้นน้ำมันเปิดโดด หลัง WTI สูงสุดรอบ 13 เดือน โบรกฯ ชี้ 4 หุ้นได้ประโยชน์

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันวันนี้ปรับตัวขึ้นจากวันก่อน นำโดยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่ปรับตัวขึ้น 2 บาท (+1.17) ขึ้นมาอยู่ที่ 172.50 บาท และมีมูลค่าซื้อขายสูงสุดในตลาดช่วงเช้าวันนี้  หลังสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูง และคาดว่าอุปสงค์จะอยู่ในภาวะตึงตัวต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน โดยตั้งแต่ต้นเดือนราคาน้ำมันดิบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ (Brent) ปรับตัวขึ้น 11% และสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) และ ปรับตัวขึ้น 12% หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า การที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ และรัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีนี้ จะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัวไปจนถึงไตรมาส 4 ปีนี้

ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบ สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 943,000 บาร์เรล สู่ระดับต่ำกว่า 22 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 65 ยิ่งทำให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัวมากยิ่งขึ้น ประเด็นดังกล่าว ทำให้ราคาน้ำมันดิบยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Brent ปรับขึ้น 2.76% ปิดที่ระดับ 96.55 เหรียญฯ

ดังนั้นตลาดหุ้นไทยน่าจะได้ประโยชน์ จากที่มีสัดส่วนหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น เกือบ 1 ใน 3 ของน้ำหนักตลาดฯ โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT,บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP,บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เป็นต้น

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า  ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่ ปิดที่ระดับ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.29 ดอลลาร์ หรือ +3.64% โดยได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 2.16 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.60 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ในสหรัฐยังแข็งแกร่ง

อีกทั้งตลาดยังคงกังวลกับแนวโน้มอุปทานตึงตัวจากการที่ซาอุดีอาระเบีย ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และรัสเซียระงับการส่งออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ กระตุ้นความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวต่อไป

อย่างไรก็ตาม เรายังมองว่าราคาน้ำมันปรับตัวรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว  มองเป็นโอกาสในการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาที่ปรับตัวขึ้น

ด้าน บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 3.21% สู่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 13 เดือน หลังจาก EIA รายงานตัวเลขสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ซึ่งน่าจะหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานให้ outperform แต่ในอีกทางหนึ่งจะเพิ่มความกังวลต่อเงินเฟ้อโลกในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องต้นปี 2567