นายคง ชิ เคือง กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า จากกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (“คณะกรรมการ ป.ป.ช.”) แจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ตั้งแต่ปี 2555 (“สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย”) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รายละเอียดปรากฏตามหนังสือที่อ้างถึง ต่อมา ปรากฏรายงานข่าวจากสื่อมวลชนในช่วงวันที่ผ่านมาว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับ พวกรวม 12 คน ซึ่งรวมถึงบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“BTSC”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทฯ นายคีรี กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ในฐานะกรรมการของ BTSC (รวมเรียกว่า “BTSC และผู้บริหาร”) เกี่ยวกับกรณีการทำสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้นในการนี้
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้รับการยืนยันในเรื่องการชี้มูลความผิดดังกล่าวจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ขอชี้แจง ข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ดังนี้ 1 ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ BTSC และผู้บริหารว่า เป็น ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ BTSC และผู้บริหารได้มีหนังสือสอบถามเพื่อขอความชัดเจนของพฤติการณ์ในการกระทำความผิดกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลายครั้ง เพื่อให้ BTSC และ ผู้บริหารได้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างถูกต้องตรงประเด็น
แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียด เพิ่มเติมตามที่ร้องขอ นอกจากนี้ BTSC และผู้บริหารพบว่า มีข้อเท็จจริงและหลักฐานหลายประการที่ยังไม่ ปรากฏในสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้นในวันที่ 4 กันยายน 2566 ผู้บริหารของ BTSC จึงได้มีหนังสือขอนัดหมายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น. เพื่อ ขอรับทราบพฤติการณ์ในการกระทำ ความผิดและชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยวาจาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดแล้วจริงกรณีดังกล่าวจะเป็นการชี้มูลความผิดก่อนที่ BTSC และผู้บริหารจะได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับทราบข้อเท็จจริงและเอกสารต่างๆ ที่ถูกต้องครบถ้วนจาก BTSC และผู้บริหารแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะทราบว่า BTSC และผู้บริหารไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่เป็นความผิดตามที่กล่าวหา
2. ในทางกฎหมาย หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดตามที่เป็นข่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องจัดส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการ สูงสุดภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีมติและอัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 180 วัน
นับแต่วันที่ได้รับสำนวน (เว้นแต่มีการขยายระยะเวลา) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ ของสำนวนการไต่สวนและพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อ BTSC และผู้บริหารตามข้อกล่าวหาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่อีกชั้นหนึ่ง 3 การมีมติชี้มูลความผิดเป็นกระบวนการทางอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย และสัญญาดังกล่าวยังคงมีผลผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทุกประการอีกทั้งคู่สัญญาภาครัฐยังคงถือเอาประโยชน์ตามสัญญาดังกล่าวโดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ เกี่ยวข้องแล้ว