ในช่วงที่บรรยากาศของการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ผลปรากฏว่า เศรษฐา ทวีสิน ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนต่างจับตามองนโยบายภาครัฐที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ คงหนีไม่พ้น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เจ้าของห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งภายใต้แบรนด์ Makro (แม็คโคร) และ Lotus’s (โลตัส) วันนี้ #ThairathMoney จะพาไปสำรวจ 5 ข้อน่ารู้ เกี่ยวกับหุ้น CPAXT ว่าจะน่าสนใจในการเข้าลงทุนแค่ไหน ?
1.ลักษณะธุรกิจ : CPAXT ประกอบธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์ แม็คโคร ในประเทศไทยและต่างประเทศ จำนวนรวม 163 สาขา และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจค้าปลีกและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ โลตัส ในประเทศไทยและต่างประเทศ จำนวนรวม 2,565 สาขา
2.ความสามารถในการทำกำไร : บริษัทรายงานผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-2565) CPAXT มีกำไรสุทธิ 6,562.67 ล้านบาท 13,686.73 ล้านบาท และ 7,696.90 ล้านบาท ตามลำดับ ล่าสุด ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/66 กำไรสุทธิ 1,500 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบไตรมาส 2/65 และลดลง 30% เมื่อเทียบไตรมาส 1/66
3.แผนในอนาคต : บริษัทมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเปิด “Hybrid Mall” นำแบรนด์แม็คโครและโลตัสมารวมกันในสาขาเดียว หวังเจาะตลาดชุมชน ตอบโจทย์ความต้องการค้าปลีกและค้าส่ง ด้านผู้บริหารมองผลประกอบการครึ่งหลังปี 2566 ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมเติบโตดี เตรียมเข้าสู่ไฮซีซั่น จากภาคการท่องเที่ยว พร้อมคาดรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อ
4.คำแนะนำ : ข้อมูลจากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) ระบุว่า โบรกเกอร์ให้คำแนะนำซื้อ 10 ราย และแนะนำถือ 3 ราย โดยให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 45 บาท ต่ำสุดที่ 33 บาท โดยบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุคาดกําไรครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ จากดอกเบี้ยจ่ายลดลง ยอดขายเติบโตขึ้น
5.ราคาหุ้น : ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ราคาหุ้น CPAXT ณ วันที่ 24 สิงหาคม อยู่ที่ 36.00 บาท ลดลงราว 9.38% นับตั้งแต่ต้นปี ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า Valuation ดูน่าสนใจขึ้น ราคาหุ้นปรับลงมาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม ปัจจุบันซื้อขายที่อัตราส่วนพีอีปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แถมช่วงสั้นมีปันผล ไตรมาส 1/66 ที่ 0.18บ/หุ้น ในวันที่ 6 กันยายนนี้ ให้ราคาเป้าหมายที่ 38.00 บาทต่อหุ้น