หุ้นPTTหรือ ปตท. ครึ่งปี 66 กำไร 4.79 หมื่นล้าน ลด 24% รับโรงกลั่น “ขาดทุน” สต๊อกน้ำมัน

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้แจ้งผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (1H2566) ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA จํานวน 196,633 ล้านบาท ลดลง จํานวน 127,056 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.3 จากในช่วงครึ่งแรกของปี 2565  จํานวน 323,689 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจการกลั่นมีผลการดําเนินงานลดลงจากผลขาดทุนสต๊อกน้ํามันในกำไรครึ่งปีแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น

โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีขาดทุนสต๊อกน้ํามันประมาณ 10,000 ล้านบาท ในขณะที่ครึ่งปีแรกของปี 2565 มีกําไรประมาณ 47,000 ล้านบาท รวมทั้ง Market GRM ลดลงจาก 13.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็น 6.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ใน 6 เดือนแรกปี 2566 จากส่วนต่างราคา น้ํามันดีเซล น้ํามันเบนซิน และน้ํามันอากาศยาน กับน้ํามันดิบปรับลดลง แม้ว่าปริมาณขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลการดําเนินงานของ ธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวลดลงจากกลุ่มโอเลฟินส์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบปรับลดลง

รวมทั้งปริมาณขายลดลง ในขณะที่ กลุ่มอะโรเมติกส์ผลการดําเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ พาราไซลีน (Paraxylene: PX) กับวัตถุดิบที่ปรับตัว สูงขึ้น แม้ว่าปริมาณขายลดลง ผลการดําเนินงานของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลงจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากต้นทุน ค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาก๊าซฯ ในอ่าว ประกอบกับราคาขายเฉลี่ยลดลงทุกผลิตภัณฑ์ รวมถึงปริมาณการขายที่ลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซฯ มีกําไรขั้นต้นที่ลดลงจากการปรับอัตราค่าผ่านท่อ 

สําหรับธุรกิจจัดหาและจัดจําหน่ายก๊าซฯ มีผลการดําเนินงานที่เพิ่มขึ้นโดยหลักจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามราคาอ้างอิง ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจอื่นๆ มีผลการดําเนินงานลดลงจากการจําหน่ายธุรกิจถ่านหินในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานมีผลการดําเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจยาที่เพิ่มขึ้น 

และผลการดําเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของ GPSC โดยหลักจากโรงไฟฟ้าผู้ผลิตขนาดเล็ก (Small Power Producer: SPP) ที่ผลการดําเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นตามค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สอดคล้อง กับต้นทุนราคาพลังงาน

ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิจํานวน 47,962 ล้านบาท ลดลง 15,673 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 24.6 จาก ครึ่งปีแรกของปี 65 ที่มีกําไรสุทธิ จํานวน 63,635 ล้านบาทตาม EBITDA ที่ลดลง แม้ว่าผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ ลดลงและกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ประกอบกับใน 142566 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจํา (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 70 ล้านบาท โดยหลักจากรายการตัดจําหน่ายสินทรัพย์ จากการสิ้นสุด สัมปทานโครงการบงกชของ PTTEP สุทธิกับ การรับรู้ส่วนลดจากปริมาณที่ผู้ผลิตส่งได้ไม่ถึงปริมาณตามสัญญา (Shortfall) ของ ปตท. ขณะที่ในครึ่งปีแรกของปี 2565 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจําเป็นผลขาดทุนประมาณ 600 ล้านบาท โดยหลักจากรายการภาษี จากการขายเงินลงทุน GPSC ของ TOP สุทธิกับ การรับรู้ส่วนลด Shortfall ของ ปตท.

ทั้งนี้ ปตท. และบริษัทย่อยในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 นั้น จะมีการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2565 จํานวน 0.70 บาทต่อหุ้น