หุ้นโหวตเลือกนายกฯ

ดัชนีหุ้นไทย 10 ก.ค.66 ปิดที่ 1,496.89 จุด เพิ่มขึ้น 6.38 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 34,045.86 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 193.42 ล้านบาท

การเมืองในประเทศ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะวันที่ 13 ก.ค.66 ที่จะมีการเปิดประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องลุ้นว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยหรือไม่ เพราะมีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้

บล.ทิสโก้ ประเมินผลการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 ก.ค.นี้ มีผลกระทบต่อดัชนีหุ้นไทย แบ่งเป็น 3 กรณี 1.กรณีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกและมีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 จุดได้ ให้กรอบแนวต้านที่ 1,520-1,540 จุด แต่ให้น้ำหนักความเป็นไปได้ในกรณีนี้เพียง 40% กลยุทธ์ลงทุนเน้นหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ช่วงตลาดปรับขึ้น เช่น แบงก์, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว เลี่ยงหุ้นที่อาจถูกกระทบจากนโยบายพรรคก้าวไกล เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าและปิโตรเคมี

2.กรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านในสัปดาห์นี้ จะกดดันให้ตลาดผันผวน โดยดัชนีมีโอกาสลงต่ำกว่า 1,500 จุด ให้กรอบแนวรับที่ 1,450-1,470 จุด ให้ความเป็นไปได้กรณีนี้สูงถึง 60% กลยุทธ์ลงทุน แนะให้ถือเงินสดไว้ก่อนและรอช้อนซื้อช่วงตลาดย่อตัว

3.กรณีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านและมีการชุมนุมประท้วง คาดดัชนีจะปรับตัวลง แต่ไม่น่าหลุด 1,450 จุด เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ แต่ดัชนีมีโอกาสต่ำกว่า 1,450 จุดได้ หากมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่ง ไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นและอาจเกิดความวุ่นวายในประเทศ

กลยุทธ์ลงทุน หากต้องการปลอดภัยถือเงินสดไว้บางส่วน และเลือกลงทุนช่วงที่ดัชนีย่อตัวลง แนะหุ้นเด่น ได้แก่ SCB, BBL, CPALL, MINT, BDMS, ADVANC และ AP!!

บล.ฟิลลิป ประเมินคือกรณีแรก มีการโหวต “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี หุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น ประเมินแนวต้าน 1,600-1,630 จุด กรณีที่ 2 หากการโหวต “พิธา” ไม่ผ่าน หุ้นไทยจะตอบรับเชิงลบก่อนแต่ไม่มาก ก่อนที่จะปรับขึ้นได้ เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้บ้างแล้ว ให้แนวต้านที่ 1,550-1,575 จุด แนะหุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโต และราคาลงมาแรง เช่น ท่องเที่ยว AOT, ERW, CENTEL และนิคมฯ WHA, AMATA

กรณีที่ 3 โหวตไม่ผ่าน และมีการชุมนุมตามมา หรือมีการจัดตั้งรัฐบาลจากขั้วรัฐบาลเดิม หุ้นไทยมีโอกาสลงมาที่แนวรับ 1,400 จุด กลยุทธ์ ลงทุนแนะหาหุ้นหลบภัย BDMS, BH!!

อินเด็กซ์ 51