นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เผยว่า หลัง ก.ล.ต. มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดที่ถูกกล่าวโทษ กรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK รวม 10 ราย เป็นเวลา 180 วัน และห้ามมิให้ผู้กระทำผิดออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว มีกำหนด 15 วัน
ซึ่งการอายัดทรัพย์สินของอดีตกรรมการ ผู้ถือหุ้นใหญ่โดย ก.ล.ต. ถือเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่มีประเด็น แต่การอายัดทรัพย์สินบริษัทที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ ตั้งแต่ตัว บมจ.สตาร์คฯ, บริษัท เฟล้ปส์ ดอด์จ อินเตอร์, บริษัท อดิสรสงขลา และ บริษัท ไทยเคเบิ้ล ทำให้เกิดคำถามตามมาทันที ว่าบริษัทพวกนี้จะไปยังไงต่อ จะจ่ายเงินเดือนพนักงาน จ่ายเงินซัพพลายเออร์ ได้ไหม
ถ้าไม่ได้ ต้องหยุดโรงงานไป 180 วัน แล้วจะผิดสัญญาส่งมอบสินค้าไหม ยิ่งเฟล้ปส์ดอด์จขายสายไฟให้การไฟฟ้า ถ้าผิดสัญญา ส่งของไม่ได้ โดนแบล็กลิสต์ แล้วจะไปยังไงต่อ ทั้งนี้มองว่า คนกลุ่มแรกที่เดือดร้อนโดยตรงคือ พนักงานบริษัทที่ต้องถูกลอยแพ และบรรดาคู่ค้าที่วางบิลไปแล้ว หรือ ผลิตของ ส่งของให้ แต่ยังไม่ได้เงิน คนพวกนี้จะได้รับเงินเดือนสิ้นเดือนนี้ไหม พนักงานคงเตรียมหางานใหม่ คู่ค้าก็เลิกคบ
ถัดมาที่เดือดร้อน คือ ธนาคารที่ปล่อยกู้เฟล้ปส์ดอด์จตรง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกำลังเจรจากับผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งนายวนรัชต์ค้ำประกันหนี้ไว้ 20,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะเอาเฟล้ปส์ดอด์จเข้าฟื้นฟูกิจการ เพื่อที่แบงก์จะได้ปล่อยสินเชื่อให้ต่อลมหายใจ ในระหว่างที่ขายกิจการต่างๆ ทั้งที่เป็นของสตาร์ค และเป็นของเฟล้ปส์ดอด์จเพื่อเอาเงินมาชำระหนี้
แต่เมื่อถูกอายัดแบบนี้ แปลว่าจะไม่สามารถเอาเข้าฟื้นฟูกิจการได้ จะให้กู้เอาเงินมารันโรงงานก็ไม่ได้เพราะถ้ารอ 180 วันครบเวลาอายัด บริษัทพวกนี้ก็กลายเป็นซากกิจการ โดนแบล็กลิสต์ โดยการไฟฟ้าไปเรียบร้อย
จากแผนเดิมที่จะทำการขายทรัพย์สินทั้งของสตาร์คและเฟล้ปส์ดอด์จออกไป บวกกับหาอัศวินไวท์ ไนท์ white knight มาซื้อกิจการ นอกจากกิจการไปต่อได้ ยังน่าจะได้เงินมาจ่ายคืนผู้ถือหุ้นกู้บ้าง ไม่มากก็น้อย
วันนี้ ผลงาน ก.ล.ต.ทำให้ลืมแผนนี้ได้ เพราะธนาคารรอฟ้องล้มละลาย เอาซากโรงงาน ที่ดิน มาขายทอดตลาด มูลค่าจากร้อย อาจจะเหลือยี่สิบ แต่แบงก์ก็ตั้งสำรองหนี้สูญไปแล้วเหลือแต่ผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้สตาร์ค ที่รอเงินที่จะเหลือจากการขายทรัพย์สินพวกนี้ ยิ่งนานวัน แทนที่จะขายแบบกิจการที่รันได้ปรกติ ต้องมารอขายเป็นซาก
เจ็บหนักกว่าธนาคาร ก็ผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ถือหุ้นนี่แหละ คนเดียวที่น่าจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คือ พวกกลุ่มทุนในกิจการเคเบิ้ล ที่มาจีบแบงก์ขอซื้อกิจการทั้งในไทย และเวียดนาม ที่รออีกหน่อย ราคาตกลงเรื่อยๆ รอจ่ายแค่ 20% ของมูลค่ากิจการก่อนวันโดนอายัดก็ได้
ทั้งนี้ เอกสารจากนายวนรัชต์ ดังกล่าวถูกส่งถึงสื่อมวลชนหลังจากวานนี้ (6 ก.ค.) ก.ล.ต.มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดที่ถูกกล่าวโทษ กรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK รวม 10 ราย เป็นเวลา 180 วัน จากจุดเริ่มต้นของวิกฤติ STARK เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แกะไทม์ไลน์ STARK จากวันแรกถึงวัน ก.ล.ต.ลงดาบ
1 มีนาคม 2566 ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน กรณีไม่ส่งงบการเงิน รวม 7 ราย หนึ่งในนั้นมี STARK อยู่ด้วย
19 มิ.ย. 2566 บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์รายงานแจ้งงบผลประกอบการปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 6,612.13 ล้านบาท และใน 2564 มีขาดทุนสุทธิ 5,965.43 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 2566 ก.ล.ต.มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด กรณี STARK รวม 10 ราย และห้ามมิให้ออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบการกระทำความผิดก่อนจะมีการกล่าวโทษเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้