ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 มิ.ย.66 ปิดที่ 1,555.11 จุด ลดลง 4.39 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 43,261.62 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,503.56 ล้านบาท
มีข่าว “ชวินดา หาญรัตนกูล” นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เผยว่า ขณะนี้สมาคมอยู่ระหว่างหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ในการถอดบทเรียน ปัญหาหุ้น MORE และ STARK เพื่อมาปรับกระบวนการในภาพใหญ่ที่เกี่ยวกับตลาดทุน เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนและปกป้องอุตสาหกรรมกองทุนรวมในอนาคต
โดยสมาคมมีแนวทางดังนี้ 1.พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆที่จะแจ้งสัญญาณเตือนในการป้องกันเคสทุจริตหรือโกงให้นักลงทุนทราบอย่างทั่วกัน 2.นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูลจากตลาดทุนในการตรวจสอบได้รัดกุมมากขึ้น 3.การใช้เครื่องมือสกัดข้อมูลไม่เป็นความจริงในโซเชียล
4.การเพิ่มความเข้มข้นในการใช้ประโยชน์จากข้อมูล ESG มาช่วยในการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น 5.ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหรือการลงทุนจากหน่วยงานกำกับดูแล (ก.ล.ต.) ควรต้องมีเกณฑ์การตรวจสอบ มากขึ้นหรือไม่-อย่างไร แต่การเพิ่มกระบวนการตรวจสอบ ต้องไม่เพิ่มภาระต้นทุนให้รายอื่นที่ปฏิบัติถูกต้องอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันกรณีปัญหาหุ้น STARK ทางสมาคมยังรอติดตามวันที่ 16 มิ.ย.นี้ก่อนว่า ทาง STARK จะส่งงบการเงินได้หรือไม่ เพื่อนำมาพิจารณาแนวทางดำเนินการต่อไป และหากผลตรวจสอบงบการเงินพบความผิดปกติ ต้องมีการดำเนินคดีโดยเรียกร้องค่าเสียหายแบบกลุ่มต่อไป
ทั้งนี้ บลจ. มีกระบวนการลงทุนที่มีมาตรฐาน มีความเป็นมืออาชีพในการกลั่นกรองข้อมูลของ บจ.ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งตามที่ปรากฏในตลาดหลักทรัพย์และแหล่งอื่นๆ มีการวิเคราะห์งบการเงินที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต ข้อมูลอันดับเครดิตของหุ้นกู้ที่ผ่านการจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับเครดิตที่ได้รับอนุญาต
ด้าน “พจน์ หะริณสุต” ซีอีโอ บลจ.วรรณ เผยว่า บลจ.วรรณ มีแผนแยกส่วนการลงทุนที่เป็นหุ้นกู้ของ STARK รุ่น STARK245A ที่กองทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณเข้าไปลงทุน ซึ่งมีมูลค่า 40-50 ล้านบาท ออกจากทรัพย์สินอื่นๆของกองทุนรวม เพื่อปกป้องนักลงทุนที่ยังถือหน่วยลงทุนอยู่โดยไม่ต้องรอให้ Default เพราะหุ้นกู้ ที่ บลจ.วรรณถืออยู่ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ หากภายใน 30 วัน STARK ยังไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ 2 รุ่นได้ จะส่งผลต่อหุ้นกู้ STARK ที่เหลืออยู่อาจต้อง Cross Default ไปด้วย!!
อินเด็กซ์ 51