ได้เวลาซื้อ RMF–SSF!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ได้เวลาซื้อ RMF–SSF!!

Date Time: 26 พ.ค. 2566 04:15 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 พ.ค.66 ปิดที่ 1,534.84 จุด บวก 5.60 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,772.13 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,852.84 ล้านบาท ขณะที่สถาบันและกองทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,305.42 ล้านบาท

Latest

AOT จ่อคืนเงิน 193 ล้านบาท ให้ คิง เพาเวอร์ฯ หลังเรียกคืนพื้นที่ขยายอาคารฯ รับนักท่องเที่ยวเพิ่ม

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 พ.ค.66 ปิดที่ 1,534.84 จุด บวก 5.60 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,772.13 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,852.84 ล้านบาท ขณะที่สถาบันและกองทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,305.42 ล้านบาท

“กำพล อดิเรกสมบัติ” ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ชี้ว่า มีประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมือง 2 ประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตาคือ การจัดตั้งรัฐบาลของไทยและการจัดการเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงระยะสั้นต่อตลาด แต่มาพร้อมโอกาสการลงทุนระยะยาว

โดยการจัดตั้งรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจใช้เวลานานกว่าปกติ ด้วยเงื่อนไขการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ต้องมีเสียงสนับสนุน 376 เสียงขึ้นไป จากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องประชุมสภาครั้งแรกภายในวันที่ 28 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย GDP ไตรมาสแรกปีนี้เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โตได้ 2.7% (ฟื้นจากไตรมาส 4/65 ที่โตได้ 1.4%) หาก พิจารณาการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 กลับมาขยายตัวได้ 1.9% (จากไตรมาส 4/65 ที่หดตัว -1.1%) ได้แรงหนุนหลักจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว ทำให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคลดลงอย่างมาก

ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ยังมีรายละเอียดไม่มากนัก อาจมีผลต่อเศรษฐกิจน้อยกว่ามาตรการกระตุ้นครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากภาครัฐมีหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่สูงอยู่แล้ว รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงถึง 87% ของ GDP น่าจะเป็นข้อจำกัดทำให้ภาคการเงินยังมีความระมัดระวังในการปล่อยกู้

ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยหลุดพ้นภาวะ earning recession หรือภาวะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาสได้แล้ว เชื่อว่าดัชนีระดับปัจจุบันรับรู้ความเสี่ยงจากประเด็นการเมืองไปบ้างแล้ว จึงเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ทั้ง RMF และ SSF

รวมทั้งแนะนำให้สะสมหุ้นท่องเที่ยว บริโภคอุปโภค และโรงพยาบาล เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และแนวโน้มราคาต่อกำไรต่อหุ้น forward P/E ratio ของหุ้นไทย ลดลงจากระดับ 15.4 เท่า ก่อนการเลือกตั้งลงมาที่ 15.0 เท่า!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ