ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง สาเหตุหลักมาจากความกังวลหลังเกิด การสลับขั้วการจัดตั้งรัฐบาล โดยการเปลี่ยนผ่านนโยบายของพรรคก้าวไกล ซึ่งเน้นปรับโครงสร้างทั้งระบบ ซึ่งฝ่ายวิจัยได้รวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นที่ได้ผลดี-ผลเสียต่อนโยบายของพรรคก้าวไกล ได้แก่
1.นโยบายสวัสดิการทุกช่วงวัย กลุ่มหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์ คือหุ้นกลุ่มค้าปลีก
2.นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปี เริ่มทันทีวันละ 450 บาท กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ คือกลุ่มค้าปลีก
3.นโยบาย “ค่าไฟแฟร์ ถูกและเป็นธรรม” กลุ่มได้ประโยชน์คือหุ้นค้าปลีก หุ้นที่กระทบคือโรงไฟฟ้า
4.นโยบายส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยว หุ้นที่ได้ประโยชน์คือค้าปลีก ท่องเที่ยว
5.นโยบาย “หลังคา สร้างชาติ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ ประกันราคาซื้อพลังงานสะอาด สำหรับครัวเรือน” กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์คือค้าปลีก ที่กระทบคือโรงไฟฟ้า-โซลาร์ เซลล์
6.นโยบายรถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด-เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ กลุ่มได้ประโยชน์คือขนส่ง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์
7.นโยบายท้องถิ่นที่มีช่องทางหารายได้ให้กู้เงิน-ออกพันธบัตร กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบคือลีสซิ่ง
8.นโยบายหนี้สินธนาคารรัฐ จ่ายดี-ลดดอกเบี้ย หุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์คือธนาคาร ส่วนหุ้นที่
คาดว่าจะได้รับผลกระทบคือลีสซิ่ง
9.นโยบายตรวจสุขภาพประจำปี กลุ่มหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์คือโรงพยาบาล
10.นโยบายกระจายงบซ่อมถนนอย่างเป็นธรรม หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบคือรับเหมาก่อสร้าง
11.นโยบายสร้างอุตสาหกรรมชิปในประเทศ หุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์คือกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์.