ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงในเช้าวันนี้ ปรับตัวบวกมากกว่า 10% โดยปัจจัยสำคัญมาจากกำไรของบริษัทที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
โดยล่าสุด บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR มีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ที่ 955.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวน 940.4 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ณ สิ้นไตรมาส 1 พอร์ตสินเชื่อเติบโต 26.4% จากปีก่อน โดยมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อคงค้างเท่ากับ 83,039.9 ล้านบาท ซึ่งบัตรติดล้อยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายตัวของธุรกิจ และยอดเบี้ยประกันวินาศภัยเติบโต 28.2% จากปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมี NPL อยู่ที่ระดับ 1.5% “รายได้รวม ธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ และนายหน้าประกันภัย เติบโตอย่างต่อเนื่อง” บริษัทมีรายได้รวมไตรมาสแรกของปี 2566 เป็นจำนวน 4,345.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3% จากปีก่อนจากรายได้ ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 29.0% จากปีก่อน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น 28.6% จากปีก่อน
ค่ำใช้จ่ายรวมจำนวน 3,149.5 ล้านบาท มาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น 354.1% จากปีก่อนจาก ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 47.0% จากปีก่อน และค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารที่เพิ่มขึ้น 19.2% จากปีก่อน โดยในไตรมาสแรกของปี 2566 พอร์ตสินเชื่อรวมยังคงขยายตัว และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยยังเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง
สร้างรายได้เติบโตดีทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยรับและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการตั้งสำรองที่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัย รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาดการเงินและอัตราดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบนโยบายความเสี่ยงของบริษัทฯ และสอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ รวมถึงมีการบริหารรายได้และค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างกำไรเติบโตได้ในไตรมาสแรกของปี
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ประเมินว่า TIDLOR ประกาศกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ที่ 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน เหนือกว่าที่เราและ Consensus คาดการณ์ 7% ขณะที่ Credit cost ปรับตัวขึ้น 212bp จากปีก่อน แต่ลดลง 20bp จากไตรมาสก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ทางผู้บริหารได้คาดไว้ อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทเติบโตได้ดี เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีในกลุ่มสินเชื่อและประกัน
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่า TIDLOR กำไรสุทธิไตรมาสแรก ดีกว่าที่เราคาดไว้ 12% และตลาดคาดไว้ 8% โดยมีกำไรสุทธิ 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.65% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 16.9% จากไตรมาสก่อน สิ่งที่ดีกว่าคาด คือ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและตั้งสำรองน้อยกว่าที่ประเมินไว้
อย่างไรก็ตาม กำไรก่อนสำรอง เพิ่มขึ้น 39.5% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10.2% จากไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม (สินเชื่อโตดี) รายได้ Fee สูงขึ้น (จากขายประกัน) ส่วนสินเชื่อไตรมาสที่ 1 ขยายตัวสูง เพิ่มขึ้น 26.4% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.2% จากไตรมาสก่อน.