เบทาโกรตั้งเป้ารายได้โต 5-10% เพิ่มกำลังผลิต-ลุยต่างประเทศ โบรกเกอร์ชี้หมูเถื่อนยังกดดัน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เบทาโกรตั้งเป้ารายได้โต 5-10% เพิ่มกำลังผลิต-ลุยต่างประเทศ โบรกเกอร์ชี้หมูเถื่อนยังกดดัน

Date Time: 23 มี.ค. 2566 11:24 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • เปิดแผนเบทาโกรปี 2566 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 5-10% ขยายกำลังการผลิต-ลุยต่างประเทศ โบรกเกอร์ชี้หมูเถื่อนยังกดดัน

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบทาโกร หรือ BTG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2566 ไว้ไม่ต่ำกว่า 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายงานและการลงทุนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นว่าการจัดการธุรกิจมีระบบที่ชัดเจนและมีความโปร่งใส ประกอบกับคุณภาพในการบริหารงานตั้งแต่กระบวนการผลิตทั้งในส่วนของโรงงานและไลฟ์สต๊อก คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารเป็นที่ยอมรับมาโดยตลอดว่ามีความแข็งแกร่ง และมีคุณภาพอาหารที่โดดเด่น

นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้สร้างฐานการจัดจำหน่ายและความสามารถในการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างแบรนด์ดิ้งอย่างแข็งแกร่ง ทำให้แบรนด์ในเครือเบทาโกรเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเห็นได้จากสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ประสบความสำเร็จอย่างมากในฮ่องกง ต่อมาได้ขยายตลาดไปยังสิงคโปร์และมีการเติบโตที่ดี ทำให้สามารถสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน จากการที่บริษัทฯ มีแผนปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าและช่องทางจัดจำหน่าย ทำให้เชื่อว่าสามารถบริหารอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ระดับ 16-18% พร้อมกับยังสามารถที่จะบริหารค่าใช้จ่ายในการจัดการขาย (SG&A) ได้ที่ระดับ 11-12% และมีความพร้อมในการที่จะลงทุนต่อเนื่องปีนี้อีกราว 4.7 พันล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ที่สำคัญในปีนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการลงทุนเพื่อขยายฐานการผลิตต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะสามารถส่งผลให้มีความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ตลอด value chain พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศมากขึ้น เช่น กัมพูชา เมียนมา ลาว และยังเน้นการทำ R&D เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยจะจัดสรรสินค้าเข้าไปขายในช่องทางที่มีมูลค่ามากขึ้นด้วยเช่นกัน

นายวสิษฐ กล่าวต่อว่า การขยายงานในกลุ่มธุรกิจเกษตรต้นน้ำ จะมีการขยายกำลังการผลิตในปีนี้เพิ่มเป็น 4.4 ล้านตัน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 4 ล้านตันต่อปี ส่วนธุรกิจกลางน้ำจะไม่มีการขยายงานมากนัก แต่มองว่ายอดขายสินค้าปรุงสุกเพื่อการส่งออกและในประเทศจะมีการขยายตัวราว 13% ในปีนี้ เนื่องจากมีความสามารถในการใช้ไลน์การผลิตเพิ่มได้อีก ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงบริษัทฯ มีแผนลงทุนเพิ่มความสามารถในการผลิตขึ้นไปประมาณอีก 1 เท่าตัวจากปีนี้ที่ 4.7 หมื่นตันต่อปี จะทำให้ปีหน้ามีกำลังการผลิตที่ 9.5 หมื่นตันต่อปี

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ธุรกิจไก่ที่ 43.2% ธุรกิจสุกรอยู่ที่ 38.1% ซึ่งสินค้าหลักสองตัวนี้จะเป็นแรงผขับเคลื่อนที่สำคัญ และทำให้บริษัทฯ มีความเติบโต จะเห็นได้จากที่ผ่านมาเบทาโกรมีเชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทไก่เนื้อที่สำคัญกับประเทศไทย อย่างไรก็ดีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสุกรก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีบทบาทในการทำกำไรได้ในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนการปรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่องทุกปี ใน 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีสัดส่วนเกือบ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.1% ของรายได้รวม

ด้านบล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ถึงแม้ว่ามีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 ลงอีกครั้ง เนื่องจากการประกาศเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทสำหรับปี 2566 มีแนวโน้มลดลงแรง ถ้าเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ปรับลดลงอีก 13% เหลือ 6.43 พันล้านบาท

ทั้งนี้มีปัจจัยกดดันจากราคาหมูไทยที่ปรับตัวลงแรงล่าสุด เกี่ยวข้องกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากหมูเถื่อน ส่วนราคาไก่ไทยล่าสุดที่ปรับตัวลงแรง และราคาส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อยในปีนี้ แต่คาดว่าการเติบโตจะมาจากวอลุ่มขายรวมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งจะได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายกำลังการผลิตคิดเป็นอย่างน้อย 10% สำหรับทุกธุรกิจ

อย่างไรก็ดี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เนื่องจากมูลค่าที่ยังคงถูก และเชื่อว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันได้ตอบรับปัจจัยลบหลายเรื่องไปแล้ว โดย P/E ปี 2566 อยู่เพียงแค่ 9.3 เท่า


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ