เหยียบเบรก!! เลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นไม่มีกำหนด เลขาฯ ครม.รีบส่งเรื่องคืนคลัง เหตุสภาธุรกิจตลาดทุนฯส่งหนังสือค้านต่อเนื่อง วงในชี้ใกล้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หวั่นกระทบฐานเสียงนักลงทุน ด้าน “อาคม” ยอมอ่อน ตั้งทีมวิเคราะห์ นำข้อเสนอสภาตลาดทุนฯมาพิจารณาใหม่ สภาตลาดทุน! ชี้มีช่องทางหารายได้อื่นจากตลาดทุน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ฉบับที่...พ.ศ...หรือการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ (ภาษีขายหุ้น) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มายังกระทรวงการคลัง เนื่องจากสภาธุรกิจตลาดทุนไทยได้ส่งหนังสือคัดค้านการจัดเก็บภาษีหุ้น ซึ่งอาจทำให้ต้องเลื่อนการประกาศบังคับใช้ภาษีขายหุ้นออกไปก่อน “เมื่อเรื่องภาษีขายหุ้นส่งคืนมายังกระทรวงการคลังแล้ว กระทรวงการคลังจะตั้งทีมงานเพื่อมาวิเคราะห์ และนำข้อสนอแนะของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ส่วนจะทันประกาศใช้ภายในกลางปีนี้หรือไม่ ขณะนี้ไม่สามารถให้คำตอบได้ ต้องรอการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้แล้วเสร็จ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเก็บภาษีขายหุ้น ได้ผ่านความเห็นชอบของ ครม.ไปแล้วเมื่อปลายเดือน พ.ย.65 ที่ผ่านมา ในอัตรา 0.11% ของมูลค่าการขายหุ้น โดยจะแบ่งการจัดเก็บเป็น 2 ช่วง ปีแรก จัดเก็บในอัตรา 0.055% ส่วนปีถัดไปจัดเก็บเต็มอัตรา 0.11% ทั้งนี้ ตามขั้นตอนเมื่อ ครม.เห็นชอบแล้ว จะนำส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตรวจร่างกฎหมายภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งเมื่อเดือน ม.ค.66 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจร่างเสร็จเรียบร้อย และส่งคืนมายังสำนักงานเลขาธิการ ครม.เพื่อนำเสนอทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ ก่อนประกาศบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ระหว่างเตรียมการนำร่างกฎหมายเสนอทูลเกล้าฯนั้น ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้ทำหนังสือคัดค้านการจัดเก็บภาษีขายหุ้นมายังรัฐบาล ทำให้รัฐบาลต้องชะลอการนำเสนอทูลเกล้าฯ และได้ส่งเรื่องมายังกระทรวงการคลัง เมื่อปลายเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยให้นำข้อเสนอของสภาตลาดทุนไทยมาพิจารณาใหม่ ทำให้แผนการเก็บภาษีขายหุ้นต้องเลื่อนไปไม่มีกำหนด จากเดิมที่คาดว่าจะประกาศใช้เดือน พ.ค.66 นอกจากประเด็นการทำหนังสือคัดค้านของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยแล้ว ยังมีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะใกล้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทำให้รัฐบาลไม่กล้าเก็บภาษีขายหุ้น เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบฐานเสียงนักลงทุน
สำหรับแนวคิดการจัดเก็บภาษีขายภาษีหุ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำการจัดเก็บภาษี เนื่องจากได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีขายหุ้นมานานกว่า 30 ปี เพื่อหนุนตลาดทุนไทยเติบโต แต่ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยเติบโตขึ้นมาก มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมเพิ่มขึ้นถึง 22 เท่าจาก 30 ปีที่แล้ว จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องยกเว้นภาษีขายหุ้นอีกต่อไป และการกลับมาเก็บภาษีขายหุ้น จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 16,000-18,000 ล้านบาท
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังที่รับฟังความเห็นของเรา การเลื่อนเก็บภาษีจะเป็นผลดี สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดโลกและตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนจากเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะคับขัน และน่าจะชะลอแรงขายหุ้นของต่างชาติได้บ้าง ซึ่งหลังจากนี้เราจะทำงานกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ตลาดทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้รัฐเพิ่ม ซึ่งทำได้หลายทาง โดยไม่จำเป็นต้องเก็บภาษีขายหุ้น เช่น รัฐบาลจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น เป็นต้น.