แสนสิริ ทำกำไรรวมปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปี ทะลุ 4,280 ล้านบาทอัตราการเติบโตด้านกำไรโตก้าวกระโดด 112% สูงสุดในอุตสาหกรรม
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ในปี 2565 แสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลงานยอดขายรวมที่ทำได้ถึง 50,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมา โดยรายได้รวมทั้งสิ้น 34,983 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 30,716 ล้านบาทรายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 67% : 33%
ทั้งนี้ แสนสิริมีกำไรสุทธิที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 4,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิฯ 2,017 ล้านบาท ถึง 112% นับว่าเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตด้านกำไรสูงที่สุดในอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม
โดยโตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8% โดยปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 33.7% ในปี 2564 มาอยู่ที่ 35.4% ในปี 2565 และสร้างผลงานที่โดดเด่นโดยเฉพาะในไตรมาส 4/65 ที่มีรายได้รวมกว่า 13,071 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1,791 ล้านบาท โตขึ้นถึง 422% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำกำไรในไตรมาสเดียวทะลุสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของธุรกิจที่ก้าวกระโดด เป็นผลจากการตอบรับในแบรนด์ที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ดีมาโดยตลอด การควบคุมวินัยทางการเงินของบริษัทฯ เป็นอย่างดี รวมถึงการบริหารงานก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้า
ส่งผลให้บริษัทมีประสิทธิภาพในการทำกำไรและสร้างรายรับให้มีศักยภาพสูงยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อเดือน ก.ย. 2565 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท เตรียมจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล สูงถึง 8% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ในปี 2566 แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดย แสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยวางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และคอนโดมิเนียม 22 โครงการ
โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท