TU ปลื้มยอดขายทั่วโลกถล่มทลาย โชว์ปันผลทั้งปี 0.84 บาทต่อหุ้น

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

TU ปลื้มยอดขายทั่วโลกถล่มทลาย โชว์ปันผลทั้งปี 0.84 บาทต่อหุ้น

Date Time: 21 ก.พ. 2566 12:09 น.

Video

"CINDY CHAO The Art Jewel" สองทศวรรษอัญมณีศิลป์ | Brand Story Exclusive EP.4

Summary

  • ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ยอดขายทั่วโลกถล่มทลายกว่า 1.56 แสนล้านบาท ดันปันผลทั้งปี 0.84 บาทต่อหุ้น รับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารกระป๋องโตแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำเหลือ 0.54 เท่า

ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ยอดขายทั่วโลกถล่มทลายกว่า 1.56 แสนล้านบาท ดันปันผลทั้งปี 0.84 บาทต่อหุ้น รับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารกระป๋องโตแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำเหลือ 0.54 เท่า

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 66 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/65 บริษัทฯ มียอดขาย 39,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% และกำไรจากการดำเนินงาน 2,384 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20.6% ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนเผยยอดขายตลอดปี 2565 เพิ่มขึ้น 10.3% อยู่ที่ 155,586 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิประจำปี 2565 อยู่ที่ระดับ 7,138 ล้านบาท ลดลง 10.9% แต่บริษัทฯ ยังสามารถจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอยู่ที่ 0.44 บาทต่อหุ้น ทำให้เงินปันผลตลอดปีอยู่ที่ 0.84 บาทต่อหุ้น และบริษัทฯ ยังคงจ่ายอัตราเงินปันผลตอบแทนในระดับดีต่อเนื่องอยู่ที่อัตรา 5.3%

สำหรับในปี 65 ที่ผ่านมายอดขายจากธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องเพิ่มขึ้น 12.8 % จากราคาขายที่เพิ่มขึ้นและความต้องการสินค้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชีย และสหรัฐอเมริกาที่มีการปล่อยสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภค สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงทำผลงานได้ดี ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 48.0% จากปี 2564 อยู่ที่ 21,693 ล้านบาท จากความต้องการอาหารสัตว์ที่พุ่งสูงและราคาขายที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยอดขายที่ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่มีความผันผวน ธุรกิจหลักของเรายังคงเป็นหัวใจสำคัญ

ขณะเดียวกันเราก็ยังต่อยอดธุรกิจให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายเพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เรายังคงพัฒนาธุรกิจเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจส่วนประกอบอาหาร อาหารเสริม และโปรตีนทางเลือก ทำให้เราสามารถขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เน้นนวัตกรรมและจะมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

โดยธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องมีบทบาทอย่างมากในยอดขายของบริษัทฯ ในปี 2565 โดยมีสัดส่วนถึง 43% ของรายได้ทั้งหมด ตามมาด้วยธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นอยู่ที่ 36% ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 14% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2564 และธุรกิจเพิ่มมูลค่าและอื่นๆ อีก 7%

ทั้งนี้ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยนในปีที่ผ่านมา โดย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยถือเป็นหุ้นไอพีโอที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย และยังเป็นปัจจัยสำคัญในการลดลงของอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของไทยยูเนี่ยนให้อยู่ที่ระดับ 0.54 เท่า ณ สิ้นปี 2565 เปรียบเทียบกับปี 2564 ที่อยู่ในระดับ 0.99 เท่า นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังมีธุรกิจกระจายตัวอยู่ทั่วโลก โดยสัดส่วนยอดขายตามภูมิภาคมีดังนี้ สหรัฐอเมริกาและแคนาดาอยู่ที่ 44% ยุโรป 26% ประเทศไทย 11% และภูมิภาคอื่นๆ 19%

ขณะเดียวกัน ไทยยูเนี่ยนยังมีการขยายโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทุน 10 ล้านเหรียญแคนาดาในบริษัท มาร่า รีนิวเอเบิลส์ คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทผู้นำการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากสาหร่ายที่มีการเพาะเลี้ยงขึ้นอย่างยั่งยืนของโลกอีกด้วย

สำหรับปี 2566 แม้ว่าเราจะยังคงเห็นภาวะเงินเฟ้อในทุกภูมิภาคทั่วโลกที่ไทยยูเนี่ยนดำเนินธุรกิจอยู่ แต่ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า การที่ไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาว ตลอดจนวินัยทางการเงิน และการให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางธุรกิจ จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยไทยยูเนี่ยนตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปี 2566 อยู่ที่ระดับ 5-6% โดยประมาณ และเพิ่มงบลงทุนอยู่ที่ 6,000-6,500 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ