ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนคือนายวรพจน์ เตลัมพุสุทธิ์ เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต โดยชักชวนผู้ลงทุนให้จองซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีส่วนตัวของตนเอง และไม่ได้ซื้อหลักทรัพย์ให้จริง ทำให้นายวรพจน์ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ ขณะกระทำผิดสังกัด บล.บัวหลวง
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ลงทุนที่ไม่ใช่ลูกค้าของ บล.บัวหลวง และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่าระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค.64 นายวรพจน์ได้ชักชวนผู้ลงทุนให้จองซื้อหุ้น IPO จำนวน 7 บริษัท ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายวรพจน์ โดยนายวรพจน์อ้างว่าได้รับสิทธิจองหุ้น IPO จาก บล.บัวหลวง ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดที่นายวรพจน์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ และให้ผู้ลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัวของนายวรพจน์ แต่ปรากฏว่านายวรพจน์ไม่ได้จองหุ้น IPO ให้แก่ผู้ลงทุน เมื่อผู้ลงทุนทวงถาม นายวรพจน์ได้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาภายหลังจากที่นายวรพจน์ถูกผู้ลงทุนร้องเรียน จึงได้นำเงินมาคืนให้แก่ผู้ลงทุนครบทั้งจำนวนแล้ว
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติกรรมของนายวรพจน์ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในตลาดทุน อยู่ในข่ายถูกเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.66
ก.ล.ต.ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อการชักชวนในการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของบุคคลอื่นที่มิใช่บัญชีตนเอง หรือการชักชวนให้โอนเงินซื้อขายหลักทรัพย์เข้าบัญชีส่วนตัวของผู้แนะนำการลงทุน.