เป็นข่าวใหญ่ประจำวันนี้ เมื่อ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศข่าวเข้าซื้อหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO จาก บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้ง พีทีอี แอลทีดี ("เอ็กซอนโมบิล") ในสัดส่วน 65.99% ของหุ้นทั้งหมดและคาดว่าการซื้อกิจการจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และพร้อมเดินหน้าทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อนักลงทุนรายย่อยด้วย
ทั้งนี้ การเข้าซื้อดังกล่าวส่งให้ราคาหุ้นของ บางจาก หรือ BCP ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงและปิดการซื้อขายที่ 34.50 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.66% ส่วนราคาหุ้นของ เอสโซ่ หรือ ESSO เจอแรงเทขายอย่างหนัก ปิดการซื้อขายที่ 9.20 บาท ปรับตัวลดลง 17.12% โดยในมุมมองของนักวิเคราะห์มองว่า การเข้าซื้อครั้งนี้ ถือเป็นผลดีต่อบางจากอย่างมาก ช่วยทำให้บริษัทขึ้นเป็นโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่และกำไรเติบโตทันที
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า กรณีบางจากเข้าซื้อหุ้นเอสโซ่ในครั้งนี้ เราประเมินว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับบางจาก ส่งผลดีกับบางจากใน 4 ด้าน
1. บางจากขึ้นเป็นโรงกลั่นเบอร์ 1 การเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยให้บางจากมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 274 KBD แซงหน้าขึ้นเป็นอันดับที่ 1 แทนที่ TOP ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 270 KBD ส่งผลให้ บางจากจะครองส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 20 % โดยปัจจุบันเอสโซ่ มีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 80% ซึ่งทางบางจากสามารถรับรู้กำลังการผลิตนี้ทันที
2. บางจาก มีกำลังการผลิตเพียงพอขายในประเทศ การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยซินเนอร์จี้การผลิตระหว่างกัน เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณการผลิตของบางจากไม่เพียงพอกับการขายในประเทศ ทำให้บางจากต้องสั่งซื้อน้ำมันจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่าย เมื่อการเข้าซื้อเอสโซ่สำเร็จจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อการขายในประเทศ ช่วยประหยัดต้นทุนการนำเข้าในระดับ 1,500-2,000 ล้านบาท
3. ได้ปั๊มน้ำมันเพิ่มแถมโอกาสขยายร้านกาแฟในเอสโซ่ ในการเข้าซื้อครั้งนี้ สิ่งที่บางจากจะได้เพิ่มขึ้นมาอีก คือ สถานีบริการน้ำมันของเอสโซ่ เพิ่มขึ้นอีก 700 แห่ง ส่งผลให้จำนวนสถานีบริการน้ำมันรวมของกลุ่มบางจากจะขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 เป็นรอง ปตท. และพีที ช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น นอกจากนี้ บางจาก ยังสามารถทำการตลาดในร้านกาแฟอินทนิลในปั๊มเอสโซ่ ทำให้ช่วยเพิ่มรายได้ในส่วน non-oli เพิ่มขึ้นด้วย
4. กำไรเพิ่มขึ้น 30% โดยไม่ต้องเพิ่มทุน สำหรับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คาดว่า จะใช้เงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางบางจากแจ้งว่าจะมาจากการกู้เงิน ทั้งนี้ในด้านกระแสเงินสดของบางจากมีมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอกับการดำเนินการดีลนี้ หากดีลนี้สำเร็จ เชื่อว่า บางจากจะได้รับผลที่ดีมากๆ และจะผลักดันกำไรเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 30-40 %
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประเมินว่า กรณีการเข้าซื้อโรงกลั่นหุ้นเอสโซ่ จากบางจากนั้น มองว่า บางจากจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังการผลิตในด้านโรงกลั่น ซึ่งหากดีลนี้แล้วเสร็จจะทำให้กำลังการกลั่นน้ำมันของบางจากจะเพิ่มขึ้น ส่วนสถานีบริการน้ำมันนั้นจะส่งผลให้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 รองจาก PTT กับ PT
อย่างไรก็ตามในด้านซินเนอร์จี้ เชื่อว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันของทั้ง 2 บริษัทอยู่คนละพื้นที่ ทำให้เสริมกำลังการผลิตกันได้ยาก ดังนั้นต้องรอดูการประกาศแผนธุรกิจของบางจากหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ต้องจับตาการทำดีลนี้จะราคาสุดท้ายอยู่ที่เท่าไร
สำหรับแนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นในช่วงไตรมาสที่ 4 มองว่ายังเต็มไปด้วยความท้าทายจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงจะกดดันให้เกิดภาวะการขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่ค่อนข้างหนัก และด้านสเปรดของค่าการกลั่นที่ต่ำมาก ทำให้เชื่อว่าการขาดทุนสต๊อกน้ำมันอาจต่อเนื่องมาถึงไตรมาสที่ 1 ด้วย ทำให้เรามองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะยังไม่น่าสนใจลงทุน อาจจะเลือกลงทุนหุ้นพลังงานในกลุ่มโรงไฟฟ้าทดแทน