ดับฝันหวัง SSF หนุนหุ้นไทยปลายปี สถิติชี้เม็ดเงินวูบจาก 2 หมื่นล้านเหลือพันล้านแถมลุยหุ้นนอก

เตือนนักลงทุน อย่าฝันหวานหวัง SSF ดันหุ้นไทยปลายปีนี้ เหตุเม็ดเงินหดจากระดับ 2 หมื่นล้านเหลือ 1 พันล้านบาท หลังเปลี่ยนจาก LTF เป็น SSF แถมหันซื้อกองหุ้นต่างประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยประเมินความคาดหวังจะเห็นเม็ดเงินกองทุนประหยัดภาษีไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดในช่วงที่เหลือของปีนั้นเป็นไปได้ยาก แม้ในอดีตช่วงโค้งสุดท้ายของปีมักจะเม็ดเงินลงทุนในกองทุน LTF เข้ามาหนุนตลาดหุ้นไทยเสมอ สะท้อนจาก เดือน ธ.ค. (ปี 2012-2019) มักเป็นเดือนที่นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเฉลี่ย สูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ
โดยข้อมูลในเดือน ธ.ค. 2559 มีเม็ดเงินไหลเข้า 22,223 ล้านบาท ธ.ค. 2560 มีเงินไหลเข้า 26,698 ล้านบาท ธ.ค. 2561 มีเงินไหลเข้า 22,262 ล้านบาท ธ.ค. 2562 เงินไหลเข้า 25,335 ล้านบาทอย่างไรก็ตามในช่วง เดือน ธ.ค. 2 ปีที่แล้ว เริ่มเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันฯ 1.8 หมื่นล้านบาท ในปี 2563 และ 8.6 พันล้านบาท ในปี 2564

เนื่องจากขาดเม็ดเงินกองทุน LTF หนุนโดยฝ่ายวิจัยทําการศึกษา ข้อมูลพบว่าปกติจะมีเงินไหลเข้ากองทุน LTF เฉพาะในเดือน ธ.ค. ราว 2 ถึง 3 หมื่นล้านบาท แต่พอเปลี่ยนเป็นกองทุน SSF เหลือการไหลเข้าเดือน ธ.ค. ปี 2563 และ ปี 2564 ไม่ถึง 2 พันล้านบาทต่อเดือน เท่านั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากข้อจํากัดสิทธิในการลดหย่อนภาษีของ กองทุน SSF ที่มีมากกว่า LTF

ทั้งการจำนวนเงินที่ใช้ลดหย่อนภาษีของกองทุน SSF น้อยกว่า LTF โดยวงเงินลดหย่อนภาษีของกองทุน SSF อยู่ที่ 200,000 บาท น้อยกว่า LTF ที่ 500,000 บาท ระยะเวลาในการถือครองเพื่อจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี ของกองทุน SSF นานกว่า LTFโดยนักลงทุนต้องถือครอง กองทุน SSF นานถึง 10 ปีเต็ม ส่วนกองทุน LTF ถือเพียง 7 ปีปฏิทิน (ถ้าซื้อท้ายปีขายต้นปีเหลือเวลาถือครอง 5 ปี เศษๆ เท่านั้น)

รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ของกองทุน SSF มากกว่า LTF โดยกองทุน SSF มีประเภทกองทุนที่เลือกไป ลงทุนในตลาดการเงินต่างประเทศได้ แต่ LTF ลงทุนเฉพาะ ในประเทศเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นหุ้นไทย 100% อีกทั้งกองทุน SSF ประเภทหุ้นต่างประเทศก็เร่งเปิดกองขึ้นมาเร็ว จาก 18 กองทุน ปี 63 มาเป็น 125 กองทุน (ณ ก.ย. 65) ต่างจาก กองทุน SSF ประเภทหุ้นไทยจาก 55 กองทุน ในปี 63 มาเป็น 68 กองทุน (ณ ก.ย. 65)