ความอัปยศซื้อขายหุ้น MORE ดึง ปปง.-ตำรวจสอบสวนกลางร่วมตรวจสอบ

ตลาดหุ้นสั่งห้ามซื้อขายหุ้นมอร์ หลังถูกถล่มขาย 2 วันติดต่อกัน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ร่วมมือกับ ก.ล.ต.–ปปง. ตรวจสอบการซื้อขายที่มีพฤติกรรมไม่ปกติ พร้อมเชือดทันที หากพบความผิด ขณะที่ “จิรภพ” ร่วมตรวจสอบหุ้นอัปยศหลังถูกร้องขอ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าการตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายหุ้นอัปยศ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายที่เข้าข่ายผิดปกติ ส่อพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ หลังเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่มีนักลงทุนขาใหญ่รายหนึ่งได้ตั้งคำสั่งซื้อหุ้น 1,500 ล้านหุ้น ที่ราคาเปิดตลาด ขณะที่ มีนักลงทุน 20 กว่าราย ตั้งคำสั่งขายหุ้นในราคาเปิดตลาดตรงกันเหมือนนัดแนะกัน ส่งผลให้ทันทีที่เปิดตลาดมีคำสั่งซื้อขายจับคู่แมตช์กันทันทีที่ราคา 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 4.3%จากวันก่อนหน้ามูลค่ารวมเกือบ 4,500 ล้านบาท

หลังจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวลงต่อเนื่อง จนมาปิดที่ราคาต่ำสุดของวัน 1.95 บาท ลดลง 30% ทำให้ตลอดทั้งวันหุ้น MORE มีมูลค่าซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.ทันทีที่เปิดตลาดราคาหุ้นร่วงลงมาทันทีที่ราคาฟลอร์ 1.37 บาทต่อเนื่องจนปิดตลาด ทำให้ตลาดฯ ต้องออกประกาศเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย และสั่งให้โบรกเกอร์กำกับดูแลการซื้อขายหุ้น MORE อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ หุ้น MORE ถูกไล่ราคาขึ้นไปถึง 3 บาทก่อนถูกทุบลงมาในรอบนี้

ขณะที่มีกระแสข่าวปล่อยออกมาตลอดทั้งวันว่า ผู้ซื้อหุ้น MORE อาจไม่จ่ายค่าซื้อหุ้นที่ครบกำหนดชำระวันที่ 14 พ.ย. ส่งผลให้โบรกเกอร์หรือบริษัทหลักทรัพย์กว่า 10 แห่ง ที่เปิดวงเงินให้นักลงทุนรายนี้ซื้อหุ้นต่างพากันระส่ำ เพราะวงเงินที่เปิดให้ซื้อขายหุ้นในพอร์ต มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียง 20% และส่วนใหญ่คือหุ้น MORE ที่นักลงทุนรายนี้ถืออยู่ก่อนแล้ว ราคาหุ้น MORE ที่ปรับตัวดิ่งลง 2 ฟลอร์ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันลดลง ทำให้เมื่อวันที่ 12-13 พ.ย.ต้องมีการเรียกประชุม เพื่อขอให้ตลาดหลักทรัพย์เข้ามาช่วยดูแล

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งหยุดการซื้อขายหุ้น MORE และได้จับมือกับนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย แถลงข่าวด่วนเมื่อเช้าวันที่ 14 พ.ย.65 เพื่อเรียกความมั่นใจนักลงทุน โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อระบบการซื้อขายของตลาดภาพรวม เพราะหุ้น MORE เล็กนิดเดียว มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 10,000 ล้านบาท เทียบกับตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 20 ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายวันละ 100,000 ล้าน การส่งมอบและชำระราคาไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกับโบรกฯที่เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้น MORE ทั้งฝั่งซื้อและขายยังคงสามารถส่งมอบหุ้น MORE และชำระค่าซื้อหุ้นให้กับสำนักหักบัญชี (TCH) ได้ปกติ ส่วนที่กังวลว่าผู้ซื้อจะไม่สามารถชำระเงินค่าซื้อให้โบรกฯได้ เป็นหน้าที่ของโบรกฯที่มีขั้นตอนดำเนินการ เช่น เรียกทรัพย์สินอื่นมาชำระ หรือหุ้นตัวอื่นในพอร์ต ถ้าเงินยังไม่พอก็ต้องฟ้องร้องกัน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบภาพรวม สมาชิกทุกรายยังให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ

“ตลาดฯได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร่วมกันตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้น หากมีธุรกรรมที่ผิดปกติจะดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นอาจเข้าข่ายการซื้อขายที่ผิดปกติ”

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ โดย พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมตั้งทีมช่วยสอบสวนแล้ว.