เถ้าแก่น้อยสุดฮอต หุ้นชนซิลลิ่ง ต๊อบเผยปรับสินค้าใหม่ ดันกำไรโต 8 เท่า

หุ้น TKN สุดฮอต พุ่งชนซิลลิ่ง หลังประกาศงบไตรมาส 3 กำไร 180 ล้านบาท โต 835% ต๊อบ อิทธิพัทธ์ ผลจากการปรับโครงสร้างใหม่ ทั้งรายการสินค้าและการผลิต มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำ 10-13%

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN มีแรงซื้ออย่างคึกคัก โดยวันนี้ (10 พ.ย. 65) ราคาหุ้นเปิดการซื้อขายขึ้นมาอยู่ที่ 9.35 บาท เพิ่มขึ้นจากวานนี้ (9 พ.ย. 65) ที่ 7.20 บาท เพิ่มขึ้น 29.86%

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงสุดในรอบ 2 ปี

การเติบโตที่ผ่านมาเกิดจากผลิตภัณฑ์สาหร่ายที่หลากหลายทั้งแบบ ทอด อบ ย่าง ทำยอดขายเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายแบบอบและย่าง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง

รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์ Go Firm ที่มุ่งปรับองค์กรให้กระชับเพื่อลดต้นทุน รวมถึงใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน และได้รวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน โดยย้ายเครื่องจักรการผลิตจากโรงงานนพวงศ์ ปทุมธานี ไปไว้ในพื้นที่โรงงานโรจนะ ทำให้ได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด และอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ นายอิทธิพัทธ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-13% สำหรับการขยายตลาดในประเทศ TKN ได้มุ่งมั่นขยายเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศ และเข้าถึงคนท้องถิ่นได้ง่าย ขณะที่ช่องทางร้านสะดวกซื้อจะเน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นเช่นกัน

ส่วนตลาดต่างประเทศมีคำสั่งซื้อฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศจีนแม้ยังมีสถานการณ์การล็อกดาวน์ แต่ยังมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเฉลี่ย 130-150 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน และหากในปีหน้าน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนตลาดในสหรัฐอเมริกามียอดคำสั่งซื้อในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโต 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเจาะตลาด Mainstream ที่เป็นชาวอเมริกันในท้องถิ่นเพิ่มเติม.