เบทาโกร หรือ BTG เข้าเทรดวันแรก "ต่ำจอง" ที่ปรึกษาการเงิน ประเมิน เกิดจากความกังวลราคาเนื้อสัตว์อาจผ่านจุดพีก ชี้ บริษัทยังมีการเติบโตสูง แถมการกำหนดราคา forward P/E เพียง 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ย้ำผู้ถือหุ้นใหญ่ติดล็อกทั้งหมด ด้านผู้บริหาร เบทาโกร เตรียมประกาศกำไรไตรมาสที่ 3 วันที่ 11 พ.ย. 65 นี้ มั่นใจการเติบโตสูงถึงปี 2566
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของหุ้น บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ "BTG" เข้าทำการซื้อขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ต้องเจอความท้าทายอย่างหนัก โดยราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 39.75 บาท ลดลงจากราคาจองซื้อที่ 40.00 บาท หรือลดลง 0.06% หลังจากนั้นเจอแรงขายอย่างต่อเนื่อง และราคาลดลงมาในระดับ 38.00 บาทหรือลดลง 5%
โดยมุมมองของ นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น BTG ในวันนี้ อาจเกิดจากความกังวลของนักลงทุนในหลายเรื่อง
ทั้งในเรื่องของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ หรือ ความกังวลจากราคาเนื้อสัตว์ ทั้งราคาไก่ และราคาหมูที่อาจพ้นช่วงราคาที่สูงที่สุดไปแล้ว แต่ในมุมมองของที่ปรึกษาทางการเงิน ไม่ได้กังวลในเรื่องดังกล่าว เพราะ BTG มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งอีกทั้งการกำหนดราคานั้นมีระดับ P/E คาดการณ์ล่วงหน้า หรือ forward P/E ที่ 9 เท่า
"การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นอาจเกิดการแพนิกบางอย่าง แต่สำหรับเราไม่ได้กังวลเพราะ BTG เป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และการกำหนดราคาจองซื้อของ BTG ก็มีระดับ P/E คาดการณ์ล่วงหน้าที่ 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 13 - 14 เท่า"
การเติบโตของ BTG ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสัตว์ที่ผันผวนตามที่นักลงทุนกังวล เพราะมีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และในผลิตภัณฑ์บางชนิดบริษัทนำวัตถุดิบไปแปรรูปก่อนจำหน่ายถึง 90% ซึ่งจะส่งผลต่ออัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตามสำหรับคำถามจากผู้สื่อข่าวในเรื่องการใช้ กรีนชู กับหุ้น BTG นั้น เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ หากมีการใช้กรีนชูในช่วงที่เกิดแพนิกอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงต้องติดตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นหลังจากนี้ ส่วนหุ้นที่อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นใหญ่ได้มีการติดไซเรนท์ พีเรียด ทั้งหมดไม่มีการขายออกมาอย่างแน่นอน
เบทาโกร มั่นใจการเติบโตมีต่อเนื่อง
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า การเติบโตของ BTG นั้นยังอยู่ในทิศทางที่ดีมาก จากการบริหารห่วงโซ่คุณค่าได้อย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้ ครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้ 53,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 42,655 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.92% และมีกำไรสุทธิ 3,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,169 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 233%
โดยในครึ่งปีหลังการเติบโตจะมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการส่งออกที่มีสัดส่วนจากรายได้รวมอยู่ที่ 15% ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งทางบริษัทยังเปิดตลาดทั้งการเจาะตลาดใหม่ที่มีโอกาสการเติบโต จากปัจจุบันที่ BTG ได้เข้าไปทำตลาดใน 20 ประเทศ ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี จีน ยุโรป และอังกฤษ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าการเติบโตจะอยู่ในระดับสูงทั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และในปี 2566 ด้วย
ทั้งนี้ BTG เตรียมจะประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในวันที่ 11 พ.ย. 65 ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ BTG ครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท โดย BTG วางแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปต่อยอดความสำเร็จ เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ได้แก่
- การลงทุนเพื่อการเข้าซื้อ และ/หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ประมาณ 8,000 ล้านบาท
- การปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระหนี้สินระยะสั้นและ/หรือระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินประมาณ 8,960-10,500 ล้านบาท
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน ไม่เกิน 1,021 ล้านบาท