เครือสหพัฒน์ ตั้งกองรีทไฮโดรเจน ลงทุนคลังสินค้า โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เครือสหพัฒน์ ตั้งกองรีทไฮโดรเจน ลงทุนคลังสินค้า โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า

Date Time: 7 ก.ย. 2565 15:54 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • เครือสหพัฒน์ ตั้งกองรีท HYDROGEN ลงทุนคลังสินค้า โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง มูลค่ารวมไม่เกิน 2,845.34 ล้านบาท

Latest


เครือสหพัฒน์ ตั้งกองรีท HYDROGEN ลงทุนคลังสินค้า โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง มูลค่ารวมไม่เกิน 2,845.34 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 65 นายณวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI กล่าวว่า เครือสหพัฒน์ เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสินค้า ผลิต จำหน่าย การทำการตลาด และการกระจายสินค้าอย่างครบวงจร

โดย สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง บริษัทในเครือสหพัฒน์มีความแข็งแกร่งในด้านการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการสวนอุตสาหกรรมบนทำเลยุทธศาสตร์ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ ชลบุรี ปราจีนบุรี ตาก และลำพูน และยังมีบริษัทในเครือซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้า ไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี (ลาดกระบัง)

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและธุรกิจโลจิสติกส์ ขนส่งสินค้า โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล

ล่าสุด เครือสหพัฒน์ ผ่านการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไฮโดรเจน หรือ Hydrogen Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust หรือ HYDROGEN โดยจะเข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารคลังสินค้า และสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในโครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ลาดกระบัง และสิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วง ที่ดิน และโรงงาน ในโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ กบินทร์บุรี โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ แม่สอด เป็นระยะเวลา 30 ปี คิดเป็นพื้นที่ลงทุนรวมประมาณ 118,931 ตารางเมตร

สำหรับโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์และโครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ทั้ง 4 โครงการ มีผลการดำเนินงานที่ดีและจุดเด่นที่หลากหลาย ได้แก่ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเหมาะแก่การตั้งโรงงานและคลังสินค้า เช่น อยู่ติดถนนสายหลักและทางหลวง, ใกล้สนามบินหรือท่าเรือ อยู่ใกล้แหล่งแรงงานและการบริโภค เป็นต้น

รวมถึงมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ อาคารโรงงานและคลังสินค้าได้รับการออกแบบและก่อสร้างภายใต้มาตรฐานที่ดี สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้เช่าแต่ละราย และมีระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการสวนอุตสาหกรรมฯ ครบครัน เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา บำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

นายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮโดรเจน รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการ กองรีท HYDROGEN กล่าวว่า ทรัพย์สินทั้ง 4 โครงการที่กองรีท HYDROGEN จะเข้าลงทุนครั้งแรก มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแข็งแกร่ง โดย ณ ไตรมาส 1/2565 โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ กบินทร์บุรี โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ แม่สอด มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100%

ขณะที่โครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ลาดกระบัง มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 98.55% และผู้เช่าในทรัพย์สินที่กองรีทจะเข้าลงทุนมีการกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ โลจิสติกส์, ผู้ผลิตและโรงงานอุตสาหกรรม, อีคอมเมิร์ซ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นคู่ค้า และ/หรือ บริษัทในเครือสหพัฒน์ ที่มีประวัติการดำเนินธุรกิจเติบโตคู่กับคนไทยมายาวนาน

ทั้งนี้ มั่นใจว่าทรัพย์สินทั้ง 4 โครงการ จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงได้ประโยชน์จากที่ทรัพย์สินที่จะลงทุนบางส่วนอยู่ใกล้บริเวณโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการผลิตและบริการให้กับประเทศ ส่งผลให้มีความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น


นายสาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งกองรีท HYDROGEN ปัจจุบันกองรีทอยู่ระหว่างการพิจารณาคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ จากสำนักงาน ก.ล.ต.

โดยการเข้าลงทุนในทรัพย์สินครั้งแรกของกองรีท HYDROGEN นั้น มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 2,845.34 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 207.72 ล้านหน่วย และส่วนที่เหลือจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเช่าพื้นที่สูง ตอกย้ำถึงศักยภาพทรัพย์สินและการต่อสัญญาผู้เช่าได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด จึงเป็นกองรีท ที่มีศักยภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ