ทิสโก้ ยืนเป้าหุ้นไทยสิ้นปี 65 ที่ 1,720 จุด ลุ้นเงินต่างชาติไหลเข้าเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทิสโก้ ยืนเป้าหุ้นไทยสิ้นปี 65 ที่ 1,720 จุด ลุ้นเงินต่างชาติไหลเข้าเพิ่ม

Date Time: 1 ก.ย. 2565 15:07 น.

Video

เปิดภารกิจ 3 แบงก์ไทย ใช้ Green Finance ช่วยลูกค้าปรับตัวฝ่า ระเบียบโลกใหม่ | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • บล.ทิสโก้ ยืนเป้าดัชนีหุ้นไทยปี 65 ที่ 1,720 จุด ลุ้นกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอีก 1.3 แสนล้านบาท หาก GDP ปีหน้าโตตามศักยภาพ แนะรอจังหวะตลาดย่อรับข่าว Fed – การเมือง ทยอยสะสมหุ้น

Latest


บล.ทิสโก้ ยืนเป้าดัชนีหุ้นไทยปี 65 ที่ 1,720 จุด ลุ้นกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอีก 1.3 แสนล้านบาท หาก GDP ปีหน้าโตตามศักยภาพ แนะรอจังหวะตลาดย่อรับข่าว Fed – การเมือง ทยอยสะสมหุ้น 

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65 นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ไทยยกเลิกการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เมื่อเดือน ก.ค.เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาทะลุหลัก 1 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือว่าเร็วกว่าคาด

นอกจากนี้ การขยายระยะเวลาพำนักของวีซ่านักท่องเที่ยว หรือ Tourist Visa เป็น 45 วัน เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 - 31 มี.ค. 66 คาดว่าจะช่วยหนุนให้นักท่องเที่ยวอยู่ในไทยนานขึ้น และมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เป็นผลดีโดยตรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า 

ขณะที่กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 2/65 เพิ่มขึ้นดีทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อน (QoQ) แตะ 3.46 แสนล้านบาท สูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

โดยภาพรวมงบดีกว่าตลาดตลาดคาด 6% ทำให้ประมาณการกำไรของตลาด หรือ SET EPS ในปีนี้และปีหน้าปรับขึ้นมาอยู่ที่ 104.0 บาท และ 109.9 บาท จากเดิม 1 เดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 100.7 บาท และ 109.3 บาท หรือปรับขึ้น +3.3% และ +0.5% ตามลำดับ 

ด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด หนุนให้กระแสเงินทุนต่างชาติ หรือ Foreign Fund Flows ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิมากกว่า 5.7 หมื่นล้านบาท 

ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ มองแนวโน้ม Foreign Fund Flows ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้ายังเป็นบวกจากคาดการณ์ว่ามูลค่าของเศรษกิจไทยที่แท้จริง (Real GDP) จะกลับขึ้นมาสู่ระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 ในช่วงไตรมาส 3/2565 และจะกลับมาสู่ระดับแนวโน้มการเติบโตตามศักยภาพในปีหน้า 

โดยหากสมมติฐานให้ต่างชาติซื้อคืนไปเท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 จะแสดงนัยถึงต่างชาติจะสามารถซื้อสุทธิได้อีก 1.4 แสนล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติที่ปัจจุบันอยู่ที่ 27.1% (เป็นการถือหุ้นโดยตรง 21.1% และถือหุ้นผ่าน NVDR อีกประมาณ 6%) หากต่างชาติกลับมาถือหุ้นไทยเทียบเท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด ในปี 2562 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 27.8% จะเทียบเท่าเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าอีกราว 1.3 แสนล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม เดือน ก.ย.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสำคัญๆ หลายแห่ง ซึ่งยังคงเร่งเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย และอาจมากกว่าตลาดคาด และการดึงสภาพคล่องออกจากระบบของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว (QT) เป็นเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป

โดยคาดจะทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้ง่าย ผสานกับความไม่แน่นอนของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีภายในเดือนนี้ อาจทำให้ Foreign Fund Flows ชะลอตัว หรือพลิกเป็นไหลออกได้ในระยะสั้น 

ทั้งนี้ หากดัชนีหุ้นไทย หรือ SET Index ขึ้นผ่านจุดสูงสุดชั่วคราวที่บริเวณดัชนี 1,650 - 1,665 จุด มองระดับการปรับฐานที่น่าสนใจต่อการทยอยสะสมจะอยู่ที่บริเวณ 1,570 - 1,600 จุด และโอกาสจะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4 โดยยังคงเป้าหมาย SET Index ที่เหมาะสมปีนี้ที่ 1,720 จุด 

สำหรับประเด็นหุ้นที่น่าลงทุนในเดือนนี้ แนะนำหุ้น 3 กลุ่มคือ 1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แนะนำ AOT, CENTEL, DMT และ SPA 2. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทกลับมาอ่อนค่า แนะนำ HANA และ TFG 3. หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนะนำ CK และ SCB

โดยสรุป หุ้นเด่นที่เราแนะนำในเดือน ก.ย. คือ AOT, CENTEL, CK, DMT, HANA, SCB, SPA และ TFG  ด้านแนวรับสำคัญเดือนนี้อยู่ที่ 1,600 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,650 - 1,665 จุด และ 1,700 จุดตามลำดับ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ