จับตาหุ้น BTS หลัง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" กำลังจะเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 ประกาศนโยบายชัดอาจไม่ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีก 7 ปีข้างหน้า
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กำลังจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 17 ที่คนกรุงเทพฯ เทคะแนนให้สูงสุดถึง 1,386,215 คะแนนเลยทีเดียว หลายคนชื่นชอบนโยบายที่ผู้ว่าฯ กทม.กำลังลงมือทำ ซึ่งไม่ใช่แค่คนกทม. และคนทั่วประเทศเท่านั้นที่จับตามองเท่านั้น
ในฝั่งของของนักลงทุนมือเทรดหุ้นทั้งหลายก็จับตามองด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะนโยบายของ "ชัชชาติ" ที่จะไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวใน ปี 2572 ทำให้หุ้นบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS รวมถึงบริษัทในเครือได้ แก่บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI และ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ก็สั่นคลอนเช่นกัน โดยโบรกเกอร์ หรือนักวิเคราะห์หลายแห่งก็ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว เริ่มจาก
บล.กสิกรไทย : นโยบายหาเสียงที่จะไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS ที่หมดอายุปี 2572 อาจเป็น sentiment หรือปัจจัยลบต่อหุ้น รวมถึงบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันทั้ง VGI และ PLANB
บล.กรุงศรี : ความกังวลประเด็นการต่อสัมปทานอาจกลับมาอีกครั้ง โดยกังวลเพิ่มขึ้นว่า หนึ่งในนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ คือ ไม่ต้องการต่อสัมปทานกับ BTS หลังสัมปทานจะหมดอายุในปี 2572 หรือ 7 ปีต่อจากนี้ รวมถึงต้องการคงค่าโดยสารในระดับ 20-25 บาทตลอดสายสีเขียว รวมส่วนต่อขยาย
โดยนโยบายจะสร้างแนวโน้มเชิงลบต่อหุ้น BTS อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะในระยะสั้น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่สามารถทำนโยบายได้ตามที่หาเสียงไว้ แต่มีข้อโต้แย้งที่อาจลดความกังวลของตลาด
1. valuation การต่อสัมปทานของ BTS หลังสัมปทานปัจจุบันหมดอายุลงในปี 2572 ไม่กระทบ valuation ของ บล.กรุงศรี ให้ไว้ที่ 12.4 บาท ซึ่งอ้างอิงสัญญาเดิมระหว่าง BTS และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ที่ BTS จะดำเนินงานสายหลักจนกระทั่ง ธ.ค. 2567 และจะดำเนินงานสายหลักในสัญญา O&M จนกระทั่ง ธ.ค. 2585
2. มองว่าการต่อสัมปทานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะกรุงเทพธนาคมยังมีหนี้ค้างชำระ หากไม่มีการต่อสัญญาในระยะสั้น KT ต้องชำระเงิน 32,000 ล้านบาท ให้ BTS เป็นต้น.