บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่าตลาดหุ้นไทยเดือน พ.ค. ยังเป็นทิศทางขาลง ด้านเทคนิคประเมินกรอบดัชนีไว้ที่ 1,600-1,700 จุด มีปัจจัยกดดันเดิมคือการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และการปรับลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน สถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนยังคงยืดเยื้อต่อไป และยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะได้ข้อยุติเมื่อใด จึงทำให้ บจ. อาจมีการปรับลดเป้าหมายรายได้ ขณะที่ผลการดำเนินงานหลังประกาศงบการเงินไตรมาส 1/65 ไปแล้ว อาจออกมาไม่ดีนัก ส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ หุ้นแนะนำลงทุนเดือน พ.ค. ยังคงเน้นหุ้นธีมเปิดเมืองและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ดังนี้ HANA ให้ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน 70 บาท-BBL ราคาเหมาะสม 159 บาท-MAJOR ราคาเหมาะสม 24.60 บาท-KCE ราคาเหมาะสม 72 บาท-SPA ราคาเหมาะสม 8.60 บาท
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทย เดือน พ.ค. ไว้ที่ 1,630-1,680 จุด มองช่วงต้นเดือน ดัชนียังเป็นทิศทางขาลง จากการรอดูท่าทีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แต่หลังการประชุมน่าจะเริ่มมีแรงซื้อกลับมาภายใต้เงื่อนไขการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ FED เป็นไปตามคาดที่ 0.5%
แนะนำหุ้นที่ทิศทางผลกำไรยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งนำโดย MAJOR ให้ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน 25.50 บาท, KTB ราคาเหมาะสม 18 บาท, JMT ราคาเหมาะสม 103 บาท, GFPT ราคาเหมาะสม 16.30 บาท, DCC ราคาเหมาะสม 3.50 บาท
บล.ไอร่า มองว่าดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้ ยังมีแนวโน้มเป็นขาลง ประเมินกรอบดัชนีไว้ที่ 1,620-1,685 จุด มีปัจจัยกดดันสำคัญคือ การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในอัตราเร่ง ซึ่งจะส่งผลให้กระแสเงินทุนส่วนเกินในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มลดลง ขณะที่เงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้น กดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน จึงขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง
แนะนำหุ้น MBK ที่ราคายัง Laggard กลุ่ม ให้ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน ที่ 16.50 บาท และหุ้นที่ได้อานิสงส์เปิดเมือง อย่าง SCB ให้ราคาเหมาะสม 141 บาท และ SPA ราคาเหมาะสม 8.70 บาท!!
อินเด็กซ์ 51