หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดตัว DR NASDAQ 100 และ DR STAR 50

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดตัว DR NASDAQ 100 และ DR STAR 50

Date Time: 18 เม.ย. 2565 19:10 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดตัวDR NASDAQ 100 และ DR STAR 50 สร้างโอกาสลงทุนกองทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำสหรัฐฯ และจีน

หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดตัว DR NASDAQ 100 และ DR STAR 50 สร้างโอกาสลงทุนกองทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำสหรัฐฯ และจีน 

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพร้อมต่อยอดความสำเร็จในตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ Depositary Receipt หรือ DR ด้วยการเปิดตัว DR จำนวน 2 ตัวใหม่ล่าสุด เพื่อเปิดโอกาสการลงทุนในกองทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำในสหรัฐฯ และจีน ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยสกุลเงินบาท

สำหรับ DR 2 ตัวใหม่ อ้างอิง ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange: HKEX) ประกอบด้วย 1. DR NASDAQ 100 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ NDX01 โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK) ที่ลงทุนอ้างอิงดัชนี NASDAQ 100 ของสหรัฐฯ ออกโดย China Asset Management (Hong Kong) Limited

โดยดัชนี NASDAQ 100 ประกอบด้วยหุ้นชั้นนำขนาดใหญ่ 100 บริษัทของตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ที่มีความมั่นคงและมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ซึ่งมีน้ำหนักการลงทุน 3 อันดับแรก คือ กลุ่มเทคโนโลยี 50%, กลุ่มสื่อสาร 17% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 15%

2. DR STAR 50 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขาย STAR5001 มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น Premia China STAR50 ETF (3151.HK) ลงทุนอ้างอิงดัชนี STAR 50 ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีนวัตกรรมของจีนที่มีแนวโน้มได้รับการสนับสนุนจากแผนยุทธศาสตร์ชาติจีน 5 ปี ฉบับที่ 14 และมีศักยภาพในการเติบโตของกำไรสูง

เช่น ธุรกิจ Cloud, AI, 5G, Semiconductor, Biotech EV, New Energy และ Industry IoT เป็นต้น เป็นกองทุน ETF ที่ออกโดย Premia Partners ซึ่งดัชนี STAR 50 มีน้ำหนักการลงทุนหลักใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแรก คือ กลุ่มไอที 60.6%, กลุ่มเฮลธ์แคร์ 14.8% และกลุ่มอุตสาหการ 10.1%

สำหรับจุดเด่นของ DR NASDAQ 100 มีด้วยกันหลายข้อ เช่น 1. ได้ลงทุนใน NASDAQ ตลาดหลักทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก 2. สร้างโอกาสลงทุนในหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น Apple, Microsoft และ Alphabet รวมถึงหุ้นชั้นนำ นอกเหนือจากหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Tesla หรือ Starbucks เป็นต้น

3. สามารถลงทุน DR ที่อ้างอิง ETF หุ้นสหรัฐฯ ได้ในเวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยได้ราคาเรียลไทม์แบบไม่มีพักกลางวัน ทันท่วงทีกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไป และ 4. มูลค่าน่าสนใจเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไร

ส่วนจุดเด่นของ DR STAR 50 เช่น 1. โอกาสในการลงทุนหุ้นใน STAR Board หรือกระดาน STAR ของจีน (กระดานหุ้นสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ภายใต้ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้) มีศักยภาพเติบโตสูง เปรียบได้กับการลงทุนใน NASDAQ ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีก่อน

โดยเป็นหุ้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำของจีน เช่น หุ้น SMIC ผู้ผลิตชิปอันดับ 1 ของจีน และหุ้น Kingsoft Office ผู้ได้รับฉายา Microsoft แห่งจีน เป็นต้น สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติจีน 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่มีแผนจะสร้างจีนเป็นแหล่งเทคโนโลยีและการผลิต

2. ก้าวข้ามข้อจำกัดในการลงทุนหุ้น A share ในประเทศจีน โดยลงทุนผ่านการลงทุนใน DR ซึ่งอ้างอิงกับ STAR50 ETF ซึ่งการเข้าไปลงทุนตรงทำได้ ไม่สะดวก 3. สามารถซื้อขาย DR ที่อ้างอิง ETF หุ้นจีนได้ในเวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ราคาเรียลไทม์แบบไม่มีพักกลางวัน ตัดสินใจซื้อขายได้ทันท่วงทีกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไป และ 4. มูลค่าน่าสนใจเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไร โดยเฉพาะราคาที่ได้ปรับลงในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ DR ทั้ง 2 ตัว จะเปิดให้ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวงจองซื้อ IPO ผ่าน www.bualuang.co.th  ตั้งแต่วันที่ 26-27 เม.ย. 65 เวลา 08.30-16.00 น. ซึ่งผู้จองซื้อจะต้องชำระเงินค่าจองซื้อตามจำนวนเงินที่ต้องการลงทุน โดยจะได้รับการจัดสรรจำนวนหน่วย DR ตามราคาเฉลี่ยของราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ผู้ออกตราสารซื้อได้ รวมค่าธรรมเนียมในการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน

นายรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส หลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวว่า ปัจจุบันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงน่าสนใจ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์เราไปแล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนดัชนี NASDAQ100 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 19.70% เมื่อเทียบดัชนี S&P500 ที่อยู่ระดับ 14.60% ต่อปี

นอกจากนี้ในปี 2565 ดัชนี NASDAQ100 ยังมีค่า Forward P/E ระดับ 25.5 เท่า โดยคาดการณ์กำไรปีนี้อาจเติบโตถึง 29% ทำให้มีสัดส่วน PEG ต่ำกว่า 1 เท่า และมีหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจดทะเบียนอยู่หลายตัว เช่น Microsoft, Apple, Nvidia, Amazon และ Adobe เป็นต้น

ขณะที่ผลตอบแทนดัชนี STAR50 ที่มี 50 หลักทรัพย์ชั้นนำที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ 7.14 แสนล้านหยวนจีน ประมาณ 3.77 ล้านล้านบาท และสภาพคล่องสูง จดทะเบียนอยู่ในตลาด STAR Board โดยในปี 2564 ดัชนี STAR 50 สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ที่ 0.4% เมื่อเทียบดัชนีฮั่งเส็งที่ติดลบ 16%

โดยเป็นผลมาจากหุ้นในดัชนี STAR 50 ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบของทางการจีนน้อยกว่า ขณะที่ในแง่ของค่า Forward PEG ก็ถือว่าน่าสนใจ หลังมี Forward P/E ปี 2565 ที่ระดับ 30 เท่า และในปีนี้อาจมีกำไรเติบโตประมาณ 37%


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ