นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 131,367 ล้านบาท จากผลดีของการเปิดประเทศ ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น เงินเฟ้อแม้จะปรับขึ้นแต่ไม่ขึ้นแรงเท่าประเทศอื่น ประกอบกับเงินที่ไหลออกจากยุโรปและจีนจะมาพักในประเทศที่ผันผวนน้อยกว่า ซึ่งไทยก็เป็นประเทศเป้าหมาย สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2-3 ปีนี้ในประเทศ คือ มาตรการดูแลเศรษฐกิจของภาครัฐ ภายใต้ราคาน้ำมันและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ส่วนปัจจัยต่างประเทศต้องติดตาม ดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และการแพร่ระบาดของโควิด
ขณะที่นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 65 ว่า นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ลงมาเหลือโต 3.09% จากเดิม 3.71% มีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การเมืองโลก สงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสูงขึ้น ส่วนทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นปี 65 ยังมีปัจจัยบวกจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนหุ้นไทย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตได้ดี.