บางกอกแอร์เวย์สคาดปี 65 ธุรกิจการบินฟื้น 40% ตั้งเป้าผู้โดยสาร 2.6 ล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

บางกอกแอร์เวย์สคาดปี 65 ธุรกิจการบินฟื้น 40% ตั้งเป้าผู้โดยสาร 2.6 ล้าน

Date Time: 9 มี.ค. 2565 18:41 น.

Video

"CINDY CHAO The Art Jewel" สองทศวรรษอัญมณีศิลป์ | Brand Story Exclusive EP.4

Summary

  • บางกอกแอร์เวย์ส คาดปี 65 ธุรกิจการบินฟื้นตัว 40% เตรียมดึงผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน รวม 3.4 หมื่นเที่ยวบิน มั่นใจสมุยยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว

บางกอกแอร์เวย์ส คาดปี 65 ธุรกิจการบินฟื้นตัว 40% เตรียมดึงผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน รวม 3.4 หมื่นเที่ยวบิน มั่นใจสมุยยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA กล่าวว่า แนวโน้มการเดินทางของผู้โดยสารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส หรือ Bangkok Airways ในช่วงเดือน พ.ค. 64 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาภาพรวมการเดินทางลดลงอย่างเห็นได้ชัด

โดยต่อเนื่องมาจนถึงเดือน ส.ค. ที่สายการบินฯ ได้เปิดให้บริการเส้นทาง sealed route เพื่อสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ ได้แก่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความมั่นใจในการเดินทางมายังประเทศไทย

กระทั่งเดือน พ.ย. 64 จำนวนผู้โดยสารทยอยเพิ่มขึ้นจากนโยบายการเปิดประเทศ โดยเส้นทางสมุยยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนรายได้ผู้โดยสารอยู่ที่ 63% ของรายได้ผู้โดยสารทั้งหมด เส้นทางภายในประเทศอื่น ๆ มีสัดส่วนรายได้ผู้โดยสารอยู่ที่ 35% และกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กรุงเทพ-พนมเปญ ที่เปิดปฏิบัติการบินเมื่อเดือน ธ.ค. มีสัดส่วนรายได้ผู้โดยสาร อยู่ที่ 2% ของรายได้ผู้โดยสารทั้งหมดในปี 2564

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในปี 65 นี้คาดว่าธุรกิจการบินจะฟื้นตัวประมาณ 40% หลังจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเส้นทางบินที่จะเปิดเพิ่มเติมในปี 2565 ได้แก่ กรุงเทพฯ-กระบี่ ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 27 มี.ค.65 ส่วนในไตรมาสที่ 3 ได้แก่ เส้นทางการบินสมุย-เชียงใหม่ สมุย-ฮ่องกง กรุงเทพฯ-เสียมราฐ

ขณะที่ไตรมาสที่ 4 จะเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่-กระบี่ (เที่ยวเดียว) เชียงใหม่-ภูเก็ต (เที่ยวเดียว) สมุย-กระบี่ กรุงเทพฯ-ดานัง กรุงเทพฯ-หลวงพระบาง กรุงเทพฯ ย่างกุ้ง และ กรุงเทพฯ-มัลดีฟส์ อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินต่างๆ นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยว มาตรการการเดินทางของแต่ละประเทศ และการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจยังไม่คลี่คลาย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครื่องบินจำนวน 37 ลำ โดยแผนการบริหารฝูงบินโดยภายในสิ้นปี 2565 จะมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งสิ้น 30 ลำ โดยจะทยอยคืน Airbus A320 จำนวน 5 ลำ ซึ่งครบกำหนดสัญญาแล้ว รวมถึงจำหน่ายเครื่องบิน ATR72-500 อีกจำนวน 2 ลำ โดยเราได้ยกระดับมาตรฐานด้านการซ่อมบำรุง โดยได้รับใบรับรองหน่วยซ่อม ซึ่งผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรฐาน ตามข้อกำหนดใหม่ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยพัฒนาขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยานแบบ Airbus และ ATR ทั้งในระดับ Base Maintenance และ Line Maintenance

สำหรับในปี 2565 บริษัทฯ ได้คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน ตั้งเป้ารายได้ผู้โดยสาร 8,175 ล้านบาท รวมเที่ยวบินกว่า 3.4 หมื่นเที่ยวบิน มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 65% และราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวคาดว่าจะอยู่ที่ 3,100 บาทต่อเที่ยว

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 5,668.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44.5 เมื่อเทียบกับปี 2563 ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 8,145.1 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 45.4% ผลขาดทุนสุทธิของบริษัทฯ ในปี 2564 เท่ากับ 8,599.8 ล้านบาท โดยมีรายการขาดทุนสุทธิจากการยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย จำนวน 5,434,7 ล้านบาท ในขณะที่ผลขาดทุนจากการดำเนินงานในปี 2564 เท่ากับ 2,532.5 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 22.2% เมื่อเทียบกับปี 2563

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย โดยเน้นประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ ลดเครื่องบินเช่าดำเนินงานเมื่อหมดอายุสัญญาจำนวน 5 ลำ ในปี 65 ปรับเส้นทางบินให้ตรงกับความต้องการในการเดินทางโดยเน้นเส้นทางบินที่เชื่อมต่อสนามบินสมุย การได้รับการปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน การจัดการด้านบุคลากรให้เหมาะสม การรักษาสภาพคล่องทางการเงิน การรักษาประสิทธิภาพยานพาหนะเพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น การบำรุงรักษา ตลอดจนการได้รับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ อาทิ ในด้านภาษี

ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน ในปี 64 บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ มีรายได้อยู่ที่ 119.5 ล้านบาท ลดลง 61% เนื่องจากมีจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ตลดลง บริษัท ภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไลด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด มีรายได้ 1,122.1 ล้านบาท ลดลง 18% ทั้งนี้มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจึงทำให้มีกำไรอยู่ที่ 237 ล้านบาท

ขณะที่บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด มีรายได้ในปี 2564 อยู่ที่ 2,140.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 รายได้ที่เติบโตดังกล่าวมาจากอัตราการใช้บริการคลังสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น

นายจุลิน กอเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า นโยบายการขายและการตลาดของสายการบินในปี 65 จะเน้นการขายในตลาดต่างประเทศควบคู่กับการให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ การบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย และกลยุทธ์ด้านราคา การพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึงความสำคัญของระบบการจ่ายเงิน การให้ความสำคัญด้านรายได้เสริม การสื่อสารการตลาดและการมีส่วนรวมของลูกค้า และการเน้นย้ำในจุดแข็งของสายการบินฯ ในด้านความเป็นเลิศในการให้การบริการ

โดยช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศยังคงเป็นช่องทางหลักที่ลูกค้าในประเทศใช้ คือ website/mobile และ Customer Care Centre 1771 ส่วนตลาดต่างประเทศจะจัดจำหน่ายผ่าน Billing and Settlement Plan Agents หรือ BSP agents ในตลาดหลัก อาทิ ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน แอฟริกาใต้ และอีกกว่า 20 ตลาดทั่วโลก รวมถึงการขายผ่านเครือข่ายสายการบินพันธมิตรทั่วโลก

อีกช่องทางหนึ่งที่มุ่งเน้นมากในปีนี้คือช่องทาง API ผ่านโครงข่าย NDC และ metasearch เป็นหลัก เพราะเป็นโครงข่ายที่ช่วยให้บริษัทฯ ขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก ช่องทาง API เชื่อมต่อการเข้าถึงข้อมูลของเรา ทำให้การจัดจำหน่ายผ่าน OTA เป็นเรื่องง่ายและลดต้นทุนในการจัดจำหน่าย

ขณะนี้ OTA หลักๆ เหล่านี้ได้เชื่อมต่อกับระบบสำรองที่นั่งของสายการบินฯ เรียบร้อยแล้ว รวมถึง metasearch engine หลักทั้ง SkyScanner and Google นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความตั้งใจให้ผลิตภัณฑ์และการบริการไปอยู่ในทุกๆ ที่ ที่ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการได้ รวมถึงแอปพลิเคชัน หรือ super APP ต่างๆ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเชื่อมต่อกับ Robinhood รวมถึงการให้บริการจองผ่านแอปพลิเคชันที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวันให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นต่อไป


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ