แสนสิริ เผยปี 64 กำไรสุทธิรวม 2,017 ล้านบาท รายได้รวม 29,558 ล้านบาท โครงการแนวราบหนุนทั้ง เศรษฐสิริ – บุราสิริ – อณาสิริ พร้อมโชว์รายได้จากการบริหารโรงแรมในกลุ่มสแตนดาร์ดฯ ทั่วโลก โต 126%
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 65 นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 64 แสนสิริยังมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) อยู่ที่ 2,017 ล้านบาท โตขึ้น 21% จากปี 63 ที่มีกำไรสุทธิฯ 1,673 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 6.8% ของรายได้รวม โตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 4.8% โดยปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการทำกำไรฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมในปี 2564 แสนสิริมีรายได้รวมทั้งสิ้น 29,558 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 26,170 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปี 64 นับเป็นอีกปีท่ามกลางความท้าทายที่แสนสิริผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งในรอบ 37 ปี จากการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ส่งผลให้แสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลงานยอดขายที่ทำได้ 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายถึง 29% และยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21%
ทั้งนี้ รายได้กว่า 67% ของปี 2564 มาจากความสำเร็จของรายได้โครงการแนวราบ โดยเฉพาะรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยวที่มีสัดส่วนถึง 49% ของรายได้จากการขายโครงการทั้งหมด หรือคิดเป็น 12,753 ล้านบาท ทั้งนี้ แสนสิริยังตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนาแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับบน ด้วยรายได้จากแบรนด์เศรษฐสิริ และ บุราสิริ ที่สร้างรายได้ไปถึง 6,600 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
โดยแชมป์โครงการบ้านเดี่ยวที่ทำรายได้สูงสุด ประกอบด้วย โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา, โครงการเศรษฐสิริ จรัญ-ปิ่นเกล้า 2 และโครงการเศรษฐสิริ พระราม 5 รองลงมาเป็นรายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 33% หรือคิดเป็น 8,508 ล้านบาท โดย 3 โครงการคอนโดมิเนียมที่มีรายได้สูงสุด ได้แก่ เอ็กซ์ที ห้วยขวาง, โอกะ เฮาส์ และเอดจ์ เซ็นทรัล - พัทยา ตามลำดับ
นอกจากนี้ จากการผ่อนคลายมาตรการโควิดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้ธุรกิจอื่นๆ ของแสนสิริ อาทิ ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการอื่นๆ เติบโตขึ้น โดยในปี 2564 แสนสิริมีรายได้จากการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนกว่า 62% ในสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard หรือ เดอะ สแตนดาร์ด สร้างรายได้จากการบริหารโรงแรมในปีที่ผ่านมาอีก 315 ล้านบาท โตขึ้นถึง 126% รวมถึงรายได้ค่าบริการอื่น ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากธุรกิจโรงแรม รวมถึง เดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน และ เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ ที่มีแสนสิริเป็นผู้ลงทุนอีกด้วย