MAKRO โชว์รายได้ปี 64 รวม 266,435 ล้านบาท กำไรแตะ 13,687 ล้าน แม้เศรษฐกิจซบกำลังซื้อหดเพราะโควิด
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65 นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร สายงาน Group Shared Service บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO กล่าวว่า ในปี 64 ที่ผ่านมาบริษัททำรายได้รวม 266,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% จากปี 63 ที่มีรายได้รวม 218,760 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 13,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.6% จากปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 6,563 ล้านบาท โดยแม็คโคร เริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มโลตัสส์ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 64 หลังรับโอนกิจการแล้วเสร็จในวันดังกล่าว
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจากผลการดำเนินงานปี 64 ในอัตรา 0.72 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 5,306 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 64 ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น
โดยคงเหลือต้องจ่ายเงินปันผลอีกในอัตรา 0.32 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวัน Record Date ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ และจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือในวันที่ 19 พ.ค. 65 ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าวของบริษัทฯ ต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565
อย่างไรก็ตาม หลังจากแม็คโครรับโอนกิจการกลุ่มโลตัสส์ทำให้มีธุรกิจครอบคลุมทั้งการค้าส่งแบบ B2B และค้าปลีกแบบ B2C รวมถึงมีรายได้จากพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น โดยจะใช้จุดแข็งของทั้งแม็คโครและโลตัสส์ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจทั้งค้าส่งและค้าปลีก ขยายฐานธุรกิจในเอเชียใต้และอาเซียน เพื่อเติบโตต่อไปในระดับภูมิภาค
รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อสนับสนุน SME ผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร ผ่านช่องทางจำหน่ายในทุกรูปแบบ พร้อมสนับสนุนส่งเสริมในด้านการพัฒนามาตรฐานการผลิตและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอีกด้วย
โดยที่ผ่านมาแม็คโคร ได้ขยายสาขาในประเทศเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาสุขุมวิท 22, สาขาลำลูกกา จ.ปทุมธานี, สาขาถนนจันทน์ และ สาขาแพรกษา จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้ปัจจุบันแม็คโครมีสาขาในประเทศไทยรวม 144 แห่ง ขณะที่กลุ่มโลตัสส์ประเทศไทย ปัจจุบันมีสาขาจำนวนกว่า 2,600 สาขา โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ ทั้งสองกลุ่มจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง.