ตลาดหลักทรัพย์ดูแลสังคมทุกมิติ มุ่งช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤติโควิด!

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำภารกิจดูแลสังคมทุกมิติ ส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 ตั้งแต่เดือน เม.ย.64 จนถึงปัจจุบัน โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนและจิตอาสา บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากวิกฤติโควิด-19 พร้อมร่วมบริจาคโครงการพัฒนาวัคซีนของคนไทยหวังสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนระยะยาว

นายกฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 ทำให้มีผู้ด้อยโอกาสในชุมชนยังอยู่ในภาวะยากลำบาก ต้องกักตัว ถูกลดงาน พักงาน และตกงาน เป็นผลให้ขาดรายได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯและมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงได้ส่งต่อความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยการสนับสนุนการหางานและช่วยกลุ่มจิตอาสาต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางผ่านกลุ่มจิตอาสาและองค์กรต่างๆเป็นจำนวนมาก อาทิ

1.กลุ่มเทใจเพื่อช่วยเหลือสถานการณ์โควิดในชุมชนคลองเตย โดยสนับสนุนการจ้างงาน 150 คน เพื่อทำงานสนับสนุนการควบคุมโรคในชุมชน เช่น จัดเก็บ/อัปเดตข้อมูลผู้ป่วย แจกจ่ายอาหาร/ของใช้ที่จำเป็นให้แก่คนที่กักตัวอยู่ในบ้าน และเป็นการสร้างรายได้ให้ 150 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดระลอกที่ 3

2.คลองเตยดีจัง โดยบริจาคเงินจัดซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับดำรงชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในชุมชนแออัดในเขตคลองเตย 3.กลุ่มเส้นด้าย กลุ่มจิตอาสาที่ช่วยเหลือรับส่งผู้ป่วย Covid-19 ให้เข้าถึงระบบการรักษาของสาธารณสุข โดยการสนับสนุนเงินจัดทำข้าวกล่องสำหรับผู้ป่วยที่ต้องกักตัวและอาสาสมัคร

4.มูลนิธิดวงประทีป บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือชุมชนคลองเตย

5.กลุ่มเป็ดไทยสู้ภัย บริจาคเงินแก่โครงการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลผู้ป่วย COVID-19 ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

6.มูลนิธิปิดทองหลังพระ โครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากฯ พัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด รวม 581 โครงการ จ้างงานคนตกงานที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้ 1,252 คน โดยมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

7.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) สนับสนุนโครงการสานฝันการศึกษาเพื่อน้องนักเรียนช้างเผือกที่ยากไร้ที่จะหลุดจากระบบการศึกษา เนื่องจากครอบครัวได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้รับทุน 200 คน

8.ศูนย์พักคอยวัดสะพาน บริจาคเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว สำหรับผู้ป่วยและผู้ที่ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 ศูนย์พักคอยวัดสะพาน

9.Food for Fighters บริจาคเงินเพื่อจัดหาอาหารเพื่อนำไปมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มเปราะบาง แก่ โครงการ Food for Fighters

10.เครือข่ายไทยแคร์ เครือข่ายภาคประชาสังคมในชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ โดยมีกลุ่มประชาชนอาสาและแพทย์อาสา ทำหน้าที่คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 และแยกออกจากประชาชนในชุมชน ตลาดหลักทรัพย์ฯ บริจาคเงินสนับสนุนการดูแลและช่วยเหลือประชาชนในชุมชนแออัดของเครือข่ายไทยแคร์

11.เครือข่าย “ช่วยด้วย” เป็นโครงการที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มจิตอาสา จากภาคเอกชน และแพทย์พยาบาลอาสา รวมกว่า 20 องค์กรพันธมิตร โดยตลาดหลักทรัพย์ฯบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการจัดทำชุดยา และของยังชีพที่จำเป็น 400 ชุด เพื่อช่วยประชาชนที่ขาดโอกาส ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที

12.โครงการ “พระไม่ทิ้งโยม” ดำเนินการโดยศูนย์พักคอยและ รพ.สนาม วัดสุทธิ วราราม บริจาคเงินแก่วัดสุทธิวราราม เพื่อจัดซื้อ
รถตู้พยาบาลที่ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อเพื่อให้บริการผู้ป่วย

13.ศูนย์รวมนวัตกรรมพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง KMITL GO FIGHT COVID-19 ร่วมกับหมอแล็บแพนด้า โดยตลาดหลักทรัพย์ฯสนับสนุนโครงการ “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” เพื่อใช้ลงพื้นสำหรับตรวจเชื้อวิด-19 ในชุมชนที่แออัด และมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายหากต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งรองรับการตรวจ 1,000 รายต่อวัน

“แม้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศจะเริ่มคลี่คลาย แต่การสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมบริจาคเงินแก่โครงการพัฒนาวัคซีนใบยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โครงการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อการพัฒนาวัคซีนของคนไทย ซึ่งต้องการทุนสนับสนุนการวิจัยจำนวนมาก เป็นไปตามเจตนารมณ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมโดยคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม” นายกฤษฎากล่าว.