BGRIM เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม รองรับพื้นที่นิคมมาบตาพุด

บี.กริม เพาเวอร์ วางศิลาฤกษ์ เปิดโครงการโรงไฟฟ้าเอไออี-เอ็มทีพี 280 เมกะวัตต์ รองรับความต้องการในพื้นที่มาบตาพุด

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 ที่ผ่านมา นายเฟลิกซ์ ดนัย ลิงค์ กรรมการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (เอไออี-เอ็มทีพี) จำกัด ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม พร้อมจำหน่ายไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และโรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

โดยโครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 280 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. จำนวนรวม 60 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA ระยะเวลา 25 ปี 

และอีก 220 เมกะวัตต์ เป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียและกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สามารถผลิตและจำหน่ายพลังงานไอน้ำให้ทั้ง 2 นิคมอุตสาหกรรมรวม 180 ตันต่อชั่วโมง โดยมีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ หรือ COD ในช่วงครึ่งปีหลัง 65

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีอีก 3 โครงการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. รวม 90 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA ระยะเวลา 25 ปี มีกำหนดการ COD ในช่วงครึ่งปีหลัง 65 เช่นกัน โดยโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 5 โครงการ จะรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ได้

ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 50 โครงการ และตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจาก 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 63 เป็นมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ ในปี 68 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 73 โดยมีเป้าหมายรายได้ต่อปี 100,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน มีการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำที่มีคุณภาพสูงให้กับโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 300 รายอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะขยายขอบเขตการให้บริการให้ครอบคลุมบริการด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจร และขยายพื้นที่การให้บริการที่นอกเหนือไปจากนิคมอุตสาหกรรมที่ให้บริการอยู่.