บล.บัวหลวง ให้เป้า SET ครึ่งปีหลัง 64 ที่ 1,605 จุด หวังวัคซีนฟื้นเชื่อมั่น

บล.บัวหลวง ให้เป้าดัชนี SET ครึ่งปีหลัง 64 ที่ 1,605 จุด หวังวัคซีนโควิด-19 ฟื้นความเชื่อมั่น ทั้งท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศ คาดคนไทยได้รับวัคซีน 2 โดส ประมาณ 50-60% ของประชากร กลางปี 65

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 64 นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังมีการระบาดของโควิด-19 ในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปี 64 เหลือ 0.8% เนื่องจากวัคซีนจัดหาได้ช้า ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ประมาณ 1 ล้านคน

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส เพียง 10% ของประชากรทั้งหมด เศรษฐกิจจึงเกิดการชะลอตัว และกำลังซื้อของผู้บริโภคหายไป ซึ่งไทยเองต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวมากพอสมควร โดยเราประเมินว่า คนไทยจะได้รับวัคซีนโควิด 2 โดสไปแล้ว หรือราว 40-50% ของประชากร ประมาณกลางปี 65 โดยเราคาดการณ์ว่าอาจจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทยในปี 65 ประมาณ 2 ล้านคน ก็คงต้องดูว่าภาครัฐจะมีมาตรการจัดการอย่างไรเพื่อดึงจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นกว่าเดิม 

นายชัยพร กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 64 นี้เราจะยังคงเห็นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกไม่เท่ากัน โดยกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะฟื้นตัวและเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วกว่า เช่น สหรัฐฯ ยุโรป จีน หรือญี่ปุ่น นำโดยการปรับนโยบายการเงิน พิจารณาลดมาตรการช่วยเหลือ และนโยบายการเงินต่างๆ ให้กลับไปอยู่ในระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19

ขณะที่ทางกลุ่มประเทศอาเซียนยังคงฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก ดังนั้นมาตรการช่วยเหลือและนโยบายการเงินจึงยังต้องอยู่ในระดับเดิม เช่น การควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ และจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ไม่เท่ากัน จะทำให้ประเทศกลุ่มอาเซียนมีความเสี่ยงเผชิญภาวะ Stagflation หรือ เศรษฐกิจโตน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อสูง

สำหรับเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ หรือ SET Index ในปี 64 นี้ เรามองไว้ที่ 1,605 จุด และปี 65 ที่ 1,784 จุด เราให้น้ำหนักที่กลุ่ม Global growth กับ Domestic plays หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งออกอาหาร ขนส่งไทยจะรับประโยชน์จากค่าเงิน ขณะกลุ่มโรงพยาบาลกลางเล็ก บริษัทขายอุปกรณ์ทางการแพทย์สำคัญๆ จะได้ประโยชน์ ขณะที่สถาบันการเงินยังคงได้รับแรงกดดันจากการช่วยเหลือลูกหนี้ ส่วนร้านอาหาร พาณิชย์ โรงแรม กลุ่ม re-opening Thailand กำลังรอวัคซีน

ในส่วนราคาน้ำมันดิบอาจมีความเสี่ยงอ่อนตัว เนื่องจากประเทศโอเปคพลัสจะทยอยเพิ่มการผลิตน้ำมันไปจนสิ้นปีครบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปริมาณบริโภคอาจชะลอจากการแพร่โควิดสายพันธุ์เดลตา โดยกลุ่มปิโตรเคมีจะมีแรงกดดันต่อราคา และส่วนต่างจากการเพิ่มขึ้นของ supply ในช่วงครึ่งหลังของปี 64 ขณะที่ราคาทองคำคาดได้รับปัจจัยบวกจากความเสี่ยงเศรษฐกิจใหญ่ของโลกสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ชะลอจากการระบาดสายพันธุ์เดลตา และอัตราดอกเบี้ยแท้จริงของโลกต่ำศูนย์.