BGC สร้างเตาหลอมแก้วใหม่ ขยายกำลังการผลิต 4,000 ตันต่อวัน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BGC สร้างเตาหลอมแก้วใหม่ ขยายกำลังการผลิต 4,000 ตันต่อวัน

Date Time: 18 ส.ค. 2564 21:10 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส สร้างเตาหลอมแก้วใหม่ที่ราชบุรี พร้อมลงทุนที่ปราจีนบุรี ขยายกำลังการผลิตเกือบ 4,000 ตันต่อวัน ลงทุนถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน สร้างโอกาสเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำ

บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส สร้างเตาหลอมแก้วใหม่ที่ราชบุรี พร้อมลงทุนที่ปราจีนบุรี ขยายกำลังการผลิตเกือบ 4,000 ตันต่อวัน ลงทุนถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน สร้างโอกาสเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำ

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.64 นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มุ่งเน้นการเร่งลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ภายในโรงงานจังหวัดราชบุรี และลงทุนขยายกำลังการผลิตในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี หลังได้รับการอนุมัติแผนลงทุนจากคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อเดือน พ.ค.64 เพื่อขยายกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นอีก 440 ตันต่อวัน ใช้งบลงทุนรวม 2,500 ล้านบาท

โดยโรงงานดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ สามารถควบคุมอุณหภูมิและต้นทุนด้านพลังงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จอีกประมาณ 18 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมทุกโรงงานเพิ่มขึ้นจาก 3,495 ตันต่อวัน เป็น 3,935 ตันต่อวัน ครองส่วนแบ่งการตลาดด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วในประเทศ 

ล่าสุด บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุน 176 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน สูงสุด 50 ล้านเมตรต่อปี ผ่านบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ที่เป็นบริษัทย่อย หลังได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูง และขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสต่อยอดรุกเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำเพื่อผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน หรือ Flexible Packaging รองรับเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต คาดว่าจะเริ่มการลงทุนก่อสร้างในไตรมาส 1/65 และผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในไตรมาส 1/66

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 64 ครึ่งปีหลัง วางเป้าหมายรักษาการเติบโตในระดับเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกและเติบโตใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 62 คาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์จะได้รับผลกระทบชั่วคราวจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ หากมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวและมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มั่นใจว่าความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์จะกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว

บริษัทฯ วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกในปี 64 เป็น 10% ของรายได้รวม จากแนวโน้มตลาดต่างประเทศเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายในปีนี้จะมีการเติบโตทั้งจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วและจากการควบรวมกิจการ ในบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ BGP และบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด หรือ BVP ซึ่งมียอดขายในปี 64 รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 64 ที่ผ่านมา เสริมศักยภาพให้กับธุรกิจหลักอย่างบรรจุภัณฑ์แก้วด้วยการนำเสนอบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์แก้ว พร้อมฉลาก ฝา และกล่องกระดาษ ยกระดับสู่การเป็น Total Packaging Solutions หรือผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ