หุ้นราช กรุ๊ป ปรับตัวดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีหลังเพิ่มทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ปรับตัวดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 45.75 บาท ทำราคาต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ก่อนจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคามาปิดตลาดที่ 47.50 บาท ลดลง 4.25 บาท หรือ 8.21% มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น โดยนักลงทุนพากันเทขายหุ้นหลังบริษัทประกาศเพิ่มทุน 769.23 ล้านหุ้น โดยเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อลงทุนซื้อโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,045 MW ที่อินโดนีเซีย ที่บริษัทจะเข้าไปถือหุ้น 45.515% (หรือ 930 MW) และเพื่อนำไปลงทุนอื่นๆในอนาคต รวมทั้งชำระหนี้ และเป็นเงินทุน หมุนเวียน

บทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ให้ความเห็นว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวถือว่าเร็วเกินไป สวนทางกับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.6 เท่า ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการกู้ยืมได้อีกมาก และเพียงพอสำหรับการลงทุนที่ตั้งเป้าไว้ นอกจากนี้ เงินกู้ส่วนใหญ่ของบริษัทยังเป็นเงินกู้ระยะยาวและส่วนใหญ่ครบกำหนดชำระคืนหลังปี 68 ดังนั้น การตัดสินใจใช้วิธีระดมเงินเพื่อการลงทุนโดยการเพิ่มทุน จึงถือว่าเร็วเกินไป

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทต้องใช้เงินก่อสร้างโครงการใหม่ และการลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่อยู่ในแผน โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งต้องการรักษาสถานะทางการเงินให้มีความแข็งแกร่งเพื่อคงต้นทุนการเงินในระดับต่ำ โดยจะรักษาเครดิต เรทติ้ง ให้อยู่ในระดับ Investment Grade จากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างมูดีส์ และเอสแอนด์พี ซึ่งบริษัทเป็น 1 ใน 2 บริษัทจดทะเบียนไทยที่สามารถออกหุ้นกู้ในระดับสากลได้.