ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 มิ.ย.64 ปิดที่ 1,599.23 จุด ลดลง 1.90 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 81,592.73 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,317.99 ล้านบาท หุ้นไทยปิดตลาดหลุด 1,600 จุด หลังบวกขึ้นไปสูงสุดที่ 1,613 จุด แต่โดยแรงขายทำกำไรเทลงมากดดัชนี ขณะที่นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีผลต่อทิศทางดอกเบี้ย และเม็ดเงินลงทุนทั่วโลก
หุ้นเปิดเมืองหลายตัวขยับบวกได้ต่อ แต่หุ้นตัวเล็กตัวน้อยที่กลับมาร้อนแรงอีกรอบคือ หุ้นที่ประกาศตัวทำธุรกิจสายเขียวที่เกี่ยวข้องกับกัญชง-กัญชา หลัง DOD แจ้งว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชง โปรตีนจากเมล็ดกัญชงและผลิตภัณฑ์อาหาร ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันจากเมล็ดกัญชงและโปรตีนจากเมล็ดกัญชงจาก อย.เพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ เป็นรายแรกของประเทศแล้ว ทำให้หุ้น DOD และหุ้นที่เกี่ยวข้องร้อนแรง ไม่ว่าจะ RBF-KWM รวมถึง GUNKUL ที่ทะยานขึ้นนำไปก่อนหน้า
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ช่วงที่เหลือของเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะเป็นจุดทยอยประกาศใบอนุญาตโรงสกัดกัญชง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม และช่วงถัดไปน่าจะมีการพิจารณาการใช้ CBD/THC เป็นส่วนผสมจะเริ่มขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เตรียมออกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ แนะเก็งกำไร กลุ่มต้นน้ำ RBF, GUNKUL กลุ่มการสกัด RBF, KWM และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม OSP, ICHI, SAPPE
ส่วน บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่าผลประกอบการ 2Q64F ของ RBF ถูกกระทบจากโควิดระลอก 3 แต่คาดว่า 2H64F จะดีขึ้น ประเมินว่าทั้งธุรกิจอาหารและโรงแรมจะดีขึ้น HoH และคาดกำไรสุทธิปี 65F จะโตก้าวกระโดด 50+/-% นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากธุรกิจกัญชง/กัญชา แนะซื้อให้ราคาพื้นฐาน 22.90 บาท ขณะที่ ธุรกิจเครื่องปรุงรสมีแนวโน้มเติบโตได้ดีระยะยาวและบริษัทมีฐานลูกค้ามั่นคง
ล่าสุด “สุรนาถ กิตติรัตนเดช” ซีเอฟโอ RBF เผยว่าบริษัทยื่นขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) ทำโรงงานสกัดสารจากกัญชง (CBD) ไปแล้ว อยู่ระหว่างรอใบอนุญาต รวมถึงการขอไลเซนส์ปลูก ซึ่งร่วมมือกับกลุ่มวิสาหกิจ เกษตรกรท้องถิ่นเพื่อส่งต้นกัญชงให้ RBF เป็นผู้สกัด CBD มีผู้สนใจเข้าร่วมหลายราย
ขณะที่ “เอกพันธ์ วนโกสุม” ประธานกรรมการบริหาร KWM คาดจะได้ไลเซนส์ตั้งโรงงานสกัดกัญชงเพื่อนำไปสู่การผลิตยาและยาสมุนไพรที่ร่วมมือกับ SP Pharma ก.ย.-ต.ค.นี้.
อินเด็กซ์ 51