หุ้นไทยกังวลติดเชื้อร่วง 34 จุด นักวิเคราะห์มองยังเป็นขาขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันที่ 5 พ.ค. ว่า ดัชนีปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรงตลอดทั้งใน โดยเฉพาะในการซื้อขายภาคบ่ายก่อนลงมาปิดทำการที่ 1,549.22 จุด ลดลง 33.91 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 127,109.24 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 10,475.57 ล้านบาท หลังนักลงทุนกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ระบาดหนักในไทยกดดันเศรษฐกิจจนรัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการเยียวยา ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่รวมทั้งหุ้นไทย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงเป็นผลมาจากความกังวลการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และสหรัฐฯอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ที่อาจส่งผลให้เงินทุนส่วนหนึ่งไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ เพราะช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยปรับขึ้นได้จากกระแสเงินทุนไหลเข้า แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นหรือชั่วคราวเท่านั้น ฝ่ายวิจัยจึงยังไม่ปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ลง โดยยังคงเป้าหมายไว้ที่ระดับเดิมที่1,670จุด

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่าผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน พ.ค.64 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลง 14.6% จากเดือนก่อน แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” โดยนักลงทุนคาดหวังแผนการกระจายวัคซีนเพื่อคลี่คลายวิกฤติโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด ตามด้วยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจจีน ส่วนสำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ วิกฤติโควิด-19 ระลอกใหม่ในไทย รองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น.