ฝรั่งกลับลำซื้อ

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 เม.ย.64 ปิดที่ 1,559.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.94 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 83,672.26 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,847.68 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 131.50 บาท ลบ 0.50 บาท, BFIT ปิด 49.25 บาท บวก 8.25 บาท, BCH ปิด 19.10 บาท บวก 1.40 บาท, SAWAD ปิด 84.25 บาท บวก 2.25 บาท, BDMS ปิด 22.30 บาท บวก 0.40 บาท

หุ้นไทยพลิกกลับมาบวกหลังสัปดาห์ก่อนลงแรง โดยเลือกเข้าเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ทั้งกลุ่มโรงพยาบาล หรือกลุ่มเหล็กและน้ำตาลที่ราคาในตลาดโลกปรับตัวขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดในประเทศยังน่าห่วง

บล.หยวนต้าออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ก่อนเข้าสู่ช่วง Sell in May มีสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้ 1. SET INDEX มักปรับตัวลงในเดือน พ.ค.ของทุกปี โดยค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง-1.5% MoM ด้วยความน่าจะเป็นราว 70%

2.SET INDEX เดือน พ.ค. 63 (ปีล่าสุด) ปรับขึ้น 3.2% MoM แรงสุดในรอบ 11 ปี เพราะอยู่ในช่วงรีบาวด์หลัง COVID-19 รอบแรกคลายตัว

3.กลุ่มที่ปรับขึ้นเดือน พ.ค. จำนวน 4 ใน 5 ปีล่าสุด คือ ไฟแนนซ์ และกลุ่มที่ปรับขึ้น 3 ใน 5 ปี คือ เหล็ก, ยานยนต์, การแพทย์, อสังหาฯ, ขนส่ง 4.รอบนี้ยังไม่แน่ว่าจะเกิด Sell in May หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของตลาดโลกด้วย แนะนำให้เลือกลงทุนในกลุ่มงบ 1Q64 สวย และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว BCH, EKH, JWD, III, NER, PTTGC, IRPC, AH, IHL, AP,  TEAMG, STI, ROJNA!!

ทั้งนี้ หยวนต้าเชียร์ ROJNA โดดเด่น หลังการขยายตัวไปยังธุรกิจ EV Battery โดยประกาศร่วมทุนกับ EVLOMO จัดตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมกำลังการผลิต 8Gwh โดย ROJNA จะถือหุ้นในสัดส่วน 55% โดยประเมินเบื้องต้น ธุรกิจดังกล่าวจะมี EBITDA/Gwh ราว 600 ล้านบาท/Gwh

ดังนั้น Market Cap ของธุรกิจนี้ หากอิง EBITDA ที่ 10 เท่า คิดเฉพาะสัดส่วนการถือของ ROJNA ที่ 55% จะเทียบเท่ามูลค่าราว 2.6 หมื่นล้านบาท หรือ 12 บาทต่อหุ้น เทียบกับ Market Cap ของ ROJNA ปัจจุบันที่ 1.04 หมื่นล้านบาท จึงมีความน่าสนใจที่จะเห็นการ Re-Rating ของหุ้น ROJNA ที่ปัจจุบันยังต่ำกว่า BV ที่ 7.30 บาท และจะขึ้น XD เงินปันผลหุ้นละ 0.20 บาท 7 พ.ค.นี้ ให้ Yield 3%

ก่อนหน้านี้ EVLOMO ประกาศทุ่มเงิน 50 ล้านดอลลาร์สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 1,000 จุดในไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยเป็นพันธมิตรกับ OR เพื่อขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว.

อินเด็กซ์ 51