เงินติดล้อ เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของก.ล.ต. พร้อมตอกย้ำแบรนด์เป็นผู้นำด้านการเงินเพื่อรายย่อย ชูจุดแข็ง 2 ธุรกิจหลัก ปล่อยสินเชื่อ และนายหน้าประกันสุดรุ่ง
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 64 นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน หรือ Filing ต่อสำนักงานก.ล.ต. เพื่อขออนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวนไม่เกิน 1,043,542,800 หุ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของก.ล.ต.
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ เงินติดล้อ มีแผนนำเงินที่จะได้จากการระดมทุนไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและปรับโครงสร้างเงินทุนในอนาคต
ทั้งนี้ เงินติดล้อเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำเพื่อลูกค้ารายย่อย ซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมผ่านการบุกเบิกและนำแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีมาใช้ผ่านช่องทางการจำหน่ายหลากหลาย (Omni-channel) โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1. ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันครบวงจร และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้แบรนด์ เงินติดล้อ โดยดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดเพื่อสร้างโอกาสทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลักของธนาคารได้อย่างเพียงพอหรือทันที (Under-Banked)
จากเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ หลอมรวมเข้ากับทีมงานพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจสินเชื่อมากกว่า 30 ปี เงินติดล้อจึงเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันในประเทศไทย พร้อมทั้งเป็นผู้ริเริ่มสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการ
- สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ 10 นาที
- สินเชื่อรถเก๋งกระบะ อนุมัติไวภายใน 1 ชม. รับเงินสดทันทีที่สาขา
- ผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสดหมุนเวียน โดยลูกค้าสามารถกดเงินสดจากวงเงินสินเชื่อได้ด้วยตนเองที่ตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ตลอด 24 ชม. ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ในปี 2562 เงินติดล้อสามารถสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ด้วยการมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในประเทศไทย เมื่อคำนวณจากยอดสินเชื่อคงค้างในปี 2562 ที่ผ่านมา
2. ธุรกิจนายหน้าประกันภัย เงินติดล้อมีเจ้าหน้าที่นายหน้าประกันภัยมืออาชีพที่มีใบอนุญาตพร้อมให้คำปรึกษาด้านประกันภัยแก่ลูกค้า ซึ่งประจำอยู่ทุกสาขาทั่วประเทศ และยังมีบริษัทประกันวินาศภัยพันธมิตรชั้นนำ 16 ราย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกรับเงื่อนไขที่ดีได้ง่ายๆ เพียงแค่ติดต่อกับเงินติดล้อเพียงที่เดียว โดยเงินติดล้อเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนี้
- ประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท แบ่งจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยด้วยเงินสดได้จริง ไม่มีดอกเบี้ย ระยะเวลาสูงสุด 6 งวด รับความคุ้มครองทันทีที่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่งวดแรกต่อ
- พ.ร.บ. รอรับได้ทันที ไม่มีค่าบริการเพิ่ม
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ประกันโรคมะเร็ง
5. ประกันโควิด
จากการดำเนินธุรกิจมาเพียงไม่กี่ปี เงินติดล้อเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยที่มีอัตราการเติบโตด้านค่าเบี้ยประกันภัยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง และติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยให้แก่รายย่อยในปี 2562 ที่ผ่านมา
นายปิยะศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนช่องทาง Omni-channel เงินติดล้อมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความรวดเร็วและไม่ยุ่งยากให้แก่กลุ่มลูกค้าผ่านเครือข่ายสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 74 จังหวัดทั่วประเทศ และเสริมโดยเครือข่ายการส่งต่อลูกค้าที่กว้างขวางผ่านตัวแทน การขายผ่านทางโทรศัพท์ ตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกมือสอง และสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
รวมทั้งยังมี Call center 24 ชม. และช่องทางออนไลน์ของบริษัท ซึ่งรวมถึงการติดต่อผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันเงินติดล้อ เฟซบุ๊ก และแพลตฟอร์มธุรกิจของแอปพลิเคชันไลน์ ในชื่อ Tid Lor Connect ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิ์ต่างๆ ของตนเอง
นอกจากนี้ เงินติดล้อยังได้นำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสร้างแบบจำลองให้คะแนนระบบภูมิสารสนเทศ (Geographic Information System) ในการประเมินตำแหน่งที่ตั้งสาขา โปรแกรมถามตอบอัตโนมัติ (Chatbot) กระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ การออกแบบระบบอนุมัติสินเชื่อจากข้อมูลคะแนนเครดิตของลูกค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ เงินติดล้อ ให้ความสำคัญกับการจัดทำโครงการเพื่อสังคมในรูปแบบ Creating Share Value (CSV) ผ่านการสร้างโอกาสทางความรู้ด้านการเงินให้กับผู้คนในสังคม โดยมีผู้เข้ารับการอบรมไปแล้วทั้งสิ้นมากกว่า 3,902 คน และยังคงดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสทางความรู้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง.