ลดเครดิต CPALL-MAKRO

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ลดเครดิต CPALL-MAKRO

Date Time: 5 ก.พ. 2564 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นวันที่ 5 ก.พ.64 ปิดที่ 1,482.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 77,840.064 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,977.18 ล้านบาท

Latest

AOT จ่อคืนเงิน 193 ล้านบาท ให้ คิง เพาเวอร์ฯ หลังเรียกคืนพื้นที่ขยายอาคารฯ รับนักท่องเที่ยวเพิ่ม

ดัชนีหุ้นวันที่ 5 ก.พ.64 ปิดที่ 1,482.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 77,840.064 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,977.18 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุกรณีที่ CPALL ถูกปรับลดอันดับเครดิตองค์กรลงเป็น A- จากเดิม A มีมุมมอง Slightly negative sentiment จากความกังวลต่อกำลังซื้อที่แย่ลง จากการระบาดของ COVID ระลอกใหม่ว่า ไม่มีผลต่อประมาณการและราคาเชิงพื้นฐาน เนื่องจากความกังวลนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และการถูกลดอันดับเครดิต CPALL ก็เคยเกิดมาแล้วช่วง ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย TRIS ได้ปรับลดอันดับเครดิตลงเป็น A+ จากเดิม AA- ซึ่งได้สะท้อนไปแล้ว

โดยปรับสมมติฐาน ดังนี้ 1. SSSG ปี 21F ลงเหลือ +5% จาก +6.5% และ 2.ต้นทุนดีลซื้อเทสโก้สูงขึ้นจากคาดเดิม ทั้งนี้ ยังคงมุมมองเดิมคาดว่าจะเห็นกำไรค่อยๆฟื้นตัว y-y ใน 2Q21F ตามอานิสงส์ SSSG ฐานต่ำ ขณะที่ช่วงโมเมนตั้ม 4Q20F-1Q21F อาจถูกกดดันจาก SSSGที่ยังติดลบ -15-20% เพราะอากาศเย็นและการบริโภค-การท่องเที่ยวซบเซาอยู่ แต่แนะ “ซื้อ” โดยมี TP21F ที่ 68 บาท ด้วยราคาหุ้น laggards กว่ากลุ่ม ปัจจุบันซื้อขายเพียง PER-1 SD และผลดำเนินงานของ CPALL ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

บล.กรุงศรีระบุว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CPALL และ MAKRO ประเมินไว้ 2 กรณี คือ กรณีแรกจากผลประกอบการ เนื่องจาก CPALL ได้รับผลกระทบจากโครงการคนละครึ่ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป กำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ล้วนเป็นปัจจัยกดดันกำไรและรายได้ของ CPALL สะท้อนไปยังราคาหุ้นที่ปรับตัวลง

ผลกระทบจากโครงการคนละครึ่งเพราะคนไปซื้อร้านโชห่วยแทน ส่วนร้านโชห่วยก็ไปซื้อของที่แม็คโครมาขาย ซึ่ง CPALL ได้ประโยชน์ทางอ้อม แต่ไม่พอที่จะชดเชยรายได้ที่ลดลง เพราะมาร์จิ้นร้านเซเว่นฯ ดีกว่าแม็คโคร ทำให้ยอดขายเซเว่นฯ ลดลง ยิ่งถ้าคนละครึ่งขยายไปกลางปีหรือสิ้นปีนี้ ยอดขายจะปรับลงต่อเนื่อง

อีกกรณี คือ ภาระหนี้ที่ CPALL เข้าไปซื้อเทสโก้ โลตัสสูงขึ้นทั้งดอกเบี้ย ต้นทุนการเงินที่ต้องแบกรับทำให้ D/E เพิ่มขึ้นมาที่ 2 เท่า จากเดิม 1 เท่า ระยะกลางราคาหุ้นจะ downside กำไรน่าจะฟื้นปีหน้า โดยปัจจัยที่ฟิทช์หั่นเรตติ้งยังไม่ได้รวมปัจจัยนี้ แต่จะส่งผลให้ต้องปรับกำไรลง ซึ่งขณะนี้ยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 72 บาท และยังแนะซื้ออยู่!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ