หุ้นยั่งยืน ESG

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ธ.ค.63 ปิดที่ 1,483.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 112,756.84 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,635.95 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TMB ปิด 1.19 บาท ลบ 0.01 บาท, KBANK ปิด 121.50 บาท บวก 1 บาท, SCGP ปิด 42.25 บาท ลบ 1.25 บาท, CPALL ปิด 62.50 บาท ลบ 0.25 บาท และ DELTA ปิด 356 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท

หุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ราคาขึ้นแรงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 3 วันต่อเนื่อง ขณะที่มีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มอื่นๆออกมาหลังจากก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นแรง

ปิดท้าย สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้สำรวจราคาหุ้น 124 บริษัทจดทะเบียน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศรางวัล Sustainability Excellence เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social and Governance)

อย่างต่อเนื่อง โดยมี บจ.ที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 124 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) 114 บริษัท และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 10 บริษัท

โดยพบว่าราคาหุ้น 124 บริษัท ตั้งแต่ช่วงต้นปี (YTD) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.58% มากกว่าผลตอบแทนดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ติดลบ 6.56% โดยมี 20 บริษัท ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุด นำโดย DELTA เพิ่มขึ้น 599% STA เพิ่มขึ้น 160% CFRESH เพิ่มขึ้น 89.47% SYNEX เพิ่มขึ้น 89.33% OTO เพิ่มขึ้น 79.71% THIP เพิ่มขึ้น 69.79% TMT เพิ่มขึ้น 57.04% HTC เพิ่มขึ้น 55.29%

THCOM เพิ่มขึ้น 54.15% PHOL เพิ่มขึ้น 45.76% UAC เพิ่มขึ้น 42.86% PT เพิ่มขึ้น 41.51% KTC เพิ่มขึ้น 34.81% SNC เพิ่มขึ้น 34% AH เพิ่มขึ้น 27.03% AAV เพิ่มขึ้น 26.79% SC เพิ่มขึ้น 25.66% TPBI เพิ่มขึ้น 25% NSI เพิ่มขึ้น 23.75% และ HANA เพิ่มขึ้น 21.74%

ธุรกิจทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัท-ภิบาล หรือ ESG เพราะจะนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน และนี่เป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญตัวหนึ่งที่นักลงทุนควรนำมาใช้ในการพิจารณาเลือกลงทุนในธุรกิจในตลาดหุ้น!!

อินเด็กซ์ 51