จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ มอง "ไบเดน" ชนะทองไปต่อ "ทรัมป์" วินหุ้นบวก

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ มอง "ไบเดน" ชนะทองไปต่อ "ทรัมป์" วินหุ้นบวก

Date Time: 29 ต.ค. 2563 01:51 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • วายแอลจี เปิดสถิติราคาทองคำช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 4 รอบย้อนหลัง พบราคาทองมีทั้งปรับตัวเพิ่มขึ้น-ลดลง เผยครั้งล่าสุดราคาทองแกว่งตัวในกรอบกว้าง แนะจับตาผลการเลือกตั้งมะกัน มองเทคนิคระยะยาวตลาด

วายแอลจี เปิดสถิติราคาทองคำช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 4 รอบย้อนหลัง พบราคาทองมีทั้งปรับตัวเพิ่มขึ้น-ลดลง เผยครั้งล่าสุดราคาทองแกว่งตัวในกรอบกว้าง แนะจับตาผลการเลือกตั้งมะกัน มองเทคนิคระยะยาวตลาดทองยังมีโอกาสขยับขึ้น

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า นักลงทุนเริ่มจับตาประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากมีกระแสข่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความพยายามแทรกแซงจากต่างชาติ ทำให้การเลือกตั้งมีความเสี่ยงและมีความผันผวนต่อทิศทางตลาดเงินและตลาดทุน นักลงทุนจึงจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาว่าโจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะ จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจาก โจ ไบเดน มีนโยบายภาษีที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ซึ่งหากหุ้นปรับตัวลงเงินลงทุนจะไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ กลับกัน แต่หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง แม้จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และจะทำให้ราคาทองปรับลดลง อย่างไรก็ตามนโยบายบางอย่างของ โดนัลด์ทรัมป์ อาจจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำได้ เพราะช่วงปีที่ผ่านมา ก็มีนโยบายสงครามการค้า ที่ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอน ทำให้นักลงทุนหันมาพักเงินในตลาดทองคำได้เช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม หากดูข้อมูลสถิติย้อนหลังราคาทองคำวันที่มีการเลือกตั้งสหรัฐฯ พบว่า 8 พ.ย.2559 ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 1,281.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,275.26ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 6.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนครั้งก่อนหน้า 6 พ.ย.2555 ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 1,684.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,715.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 31.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อ 4 พ.ย.2551 ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 722.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 763.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 41.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อ 2 พ.ย.2547 ราคาทองคำเปิดตลาดที่ 425.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 421.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้จะเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและการเลือกตั้งสหรัฐฯไม่ชัดเจนนัก แต่ที่น่าสังเกต คือ การเลือกตั้งในปี 2559 ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเหนือ นางคลินตัน ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนอย่างมากในระหว่างการซื้อขายของวันที่ 9 พ.ย.2559 ซึ่งเป็นวันที่มีการนับคะแนน โดยมีระดับราคาสูงสุดที่ 1,337.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีระดับต่ำสุดที่ 1,269.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือมีกรอบการแกว่งตัวถึง 68.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในวันเดียว ขณะที่การเลือกตั้งในครั้งนี้มีแนวโน้มจะสร้างความผันผวนให้แก่ทองคำไม่แพ้กัน 

อย่างไรก็ดีก่อนหน้าการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ราคาทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอความชัดเจนของการเลือกตั้ง ระยะสั้นมองว่าหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังต้องระวังการอ่อนตัวลงของราคา ส่วนแนวรับแรกมองที่ 1,885-1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ยังมีโอกาสจะแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน และหากราคาผ่านแนวต้าน 1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ จะทำให้ภาพรวมมีมุมมองเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องการระบาดของโควิด-19 และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำ ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ