ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 เม.ย.63 ปิดที่ 1,228.03 จุด เพิ่มขึ้น 17.55 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 53,795.91 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,190.92 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 21.90 บาท บวก 0.70 บาท, GULF ปิด 178.50 บาท บวก 8.50 บาท, PTT ปิด 36 บาท บวก 0.25 บาท, PTTEP ปิด 79.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และ CPF ปิด 24.90 บาท ลบ 0.60 บาท
มีแรงซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าและค้าปลีกหนุนตลาดกลับมาบวกแรง
บล.เคทีบี ประเมิน 7 ธนาคารประกาศลดเงินกู้ลง 0.4% เป็นลบต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารใหญ่จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงสูงสุด 0.17% ส่วนการลดเงินนำส่งกองทุน FIDF จาก 0.46% เป็น 0.23% ส่งผลบวกต่อ BBL ที่มีสัดส่วนเงินฝากสูง ทั้งนี้ยังให้น้ำหนักลงทุนเป็น Neutral และหุ้น top pick ได้แก่ BBL
แต่การลดดอกเบี้ยเป็นบวกต่อกลุ่ม property (LPN, PSH, SPALI, ORI) ทำให้ต้นทุนผู้ซื้อลดลง และช่วยลดต้นทุนการเงินให้ผู้ประกอบการด้วย หุ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวก คือผู้ประกอบการกลุ่มตลาดกลาง-ล่างมากกว่า ได้แก่ LPN, PSH, SPALI, ORI ยังให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มเป็น Neutral หุ้น top pick ได้แก่ ORI และ SPALI
ปิดท้ายตลาดหลักทรัพย์เปิดข้อมูล ระบุว่า หลัง COVID-19 ในจีนคลี่คลาย และกำลังเดินหน้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน
ทั้งต่อผู้ส่งออกสินค้าไปจีน และเมื่อ supply chain ในจีนกลับสู่ภาวะปกติจะเป็นผลดีกับผู้ผลิตในไทยที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบหรือสินค้าจากจีน
บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในภาคการผลิตและมีความเชื่อมโยงกับจีนทั้งที่มีรายได้จากจีน และลงทุนในจีน ณ สิ้นปี 62 มี 45 บริษัท ประกอบด้วย กลุ่มเกษตร NER, STA, TRUBB, TWPC ก่อสร้าง EPG, SCC, SCCC, TASCO, TCMC, TPIPL อิเล็กทรอนิกส์ CCET, DELTA, EIC, HANA
กลุ่มพลังงาน AKR, BANPU, BPP, EA, IRPC, LANNA, PTT, SGP, SUSCO, TCC ยานยนต์ AH, IHL แฟชั่น SUC อาหารและเครื่องดื่ม ASIAN, CBG, CPF, SAPPE, SNP, TFMAMA, TKN, TU กลุ่มเครื่องใช้ในบ้านและสำนักงาน OGC เครื่องจักรอุตสาหกรรม CTW, KKC
กลุ่มบรรจุภัณฑ์ PTL เครื่องใช้ส่วนบุคคล S&J ปิโตรเคมี GGC, IVL, PTTGC, VNT และกลุ่มเหล็ก MCS.
อินเด็กซ์ 51