ผู้จัดการตลาดหุ้น เตือนนักลงทุนอย่าตกใจหุ้นไทยร่วงแรงเกินเหตุ ชี้มาจากความตึงเครียดสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน ยืนยันมั่นใจหุ้นไทยกระทบแค่บางกลุ่ม การันตี Fund Flow ไหลกลับมาแน่นอน จัดงาน Thailand Focus เป็นเวทีชี้แจงฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุน ในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาด ตามทิศทางตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวลง หลังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ประเด็นสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่ทั้ง 2 ฝ่าย ปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าตอบโต้ระหว่างกัน ขณะที่นักลงทุนยังผิดหวังการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจน เกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในอนาคต สร้างความตึงเครียดให้กับตลาดหุ้นทั่วทั้งโลก ทำให้เงินลงทุนโยกหนีเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้น แรงขายที่ออกมาอย่างหนัก กดดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,609.50 ลดลง 37.15 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับพยุงดัชนีมาปิดทำการที่ 1622.73 จุด ลบ 23.95 จุด ท่ามกลางมูลค่าซื้อขาย 64,691.57 ล้านบาท
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า หุ้นไทยปรับตัวลงแรง เนื่องจากข่าวสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชีย ที่เปิดตลาดก่อนปรับตัวลงแรง ขณะที่หุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อ้างอิงกับการส่งออกไปสหรัฐฯ แต่มีบางกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบและไม่ปรับตัวลดลงแรงตาม เช่น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT), กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) เป็นต้น
“หากภาวะตลาดปรับตัวลงแรงจนถึงระดับที่ต้องใช้มาตรการในการหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) ตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีหลักเกณฑ์การนำมาใช้อยู่แล้ว เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาพิจารณาข้อมูลให้ครบทุกด้าน แต่ตลาดจะยังคงเน้นการสื่อสาร การให้ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานที่ถูกต้องกับนักลงทุนและทำความเข้าใจเพื่อเรียกความเชื่อมั่น นักลงทุนผ่านสื่อต่างๆ ก่อนถึงขั้นใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์”
ทั้งนี้ หุ้นไทยร่วงแรงเพราะสถานการณ์ในโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่ไม่อยากให้นักลงทุนตกใจกลัวจนเกินเหตุ แต่ในความเสี่ยงยังมีโอกาสให้พิจารณาว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรง เทียบกับปัจจัยพื้นฐานหรือความสามารถในการทำกำไรของบริษัท นักลงทุนจะรับความเสี่ยงได้เพียงใด
“ภาพรวมของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ซึ่งที่ผ่านมาจะขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังเป็นบวกในปีนี้ โดยกองทุนต่างชาติ กลุ่มที่เน้นลงทุนระยะยาว มีโอกาสไหลกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย เนื่องจากตลาดหุ้นไทย ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับความสามารถ ในการทำกำไร และจ่ายเงินปันผลดีกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดภูมิภาค ส่วนทิศทางของนักลงทุนต่างชาติระยะสั้น ไม่สามารถตอบได้ ต้องรอดูท่าทีและทิศทางนโยบายการเงินทั่วโลก รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ”
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตรียมจัดงาน Thailand Focus ในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อเป็นเวทีเรียกความเชื่อมั่น ให้แก่นักลงทุนต่างชาติจากทั่วโลก ให้นักลงทุนรับทราบข้อมูลข่าวสารของตลาดหุ้นไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไม่ได้ผันผวนเฉพาะตลาดหุ้นไทยแต่ผันผวนทั่วโลก ขอให้นักลงทุนอย่าตกใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความกังวลต่อสถานการณ์ของโลก ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ลดต่ำลงเหมือนกับทุกตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะผู้ลงทุนกังวลเรื่องสงครามการค้า และ ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด.